Talk of The Town

สะเทือนถึงตลาดทุน! คลิปเสียง “แพทองธาร” ชี้อนาคตหุ้นไทย พุ่งหรือลง?


25 สิงหาคม 2568

สัปดาห์นี้ติดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปเสียงนายกฯแพทองธาร โบรกฯ ชี้ หากไม่ผิดจะช่วยสร้างเสถียรภาพการเมือง ดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่หากผิด อาจทำหุ้นไทยเข้าภาวะสุญญากาศ

สะเทือนถึงตลาดทุน_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่าวันศุกร์นี้ติดตามศาลศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีคดีคลิปเสียงของคุณ“แพทองธาร นั้นมีความผิดจริงหรือไม่ซึ่งแยกเป็น 2 ทางเลือกทางการเมืองหลังจากนี้ 

โดยหากศาลชี้ว่า “ผิด” อาจมีผลให้คุณแพทองธาร สิ้นสภาพความเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ม.170 เปิดช่องให้เกิดการเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภา พรรคเพื่อไทยอาจยังคงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากเสียงยังมั่นคง แต่จะเกิด “สุญญากาศทางการเมือง” ชั่วคราว

ขณะที่ หากศาลชี้ว่า “ไม่ผิด” คุณแพทองธารยังดำรงตำแหน่งต่อ และเพิ่มความชอบธรรมทางการเมือง และฝ่ายตรงข้ามอาจลดการโจมตี แต่ก็ยังคงมีแรงกดดันเรื่องความโปร่งใส

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ให้มุมมองว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 ส.ค.นายกฯแพทองธารจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ หากศาลฯเห็นว่าไม่เข้าข่ายและทําให้นายกฯสามารถดํารงตําแหน่งต่อไปได้ จะเป็นกรณีที่ดีต่อเสถียรภาพการเมืองไทย และเป็นการยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศขึ้นมาได้บ้าง 

แต่ในทางกลับกัน หากศาลฯชี้ว่ามีความผิดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก็จะว่างลงทันที ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ส่งผล กระทบใดๆต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ที่เตรียมจะถูกผลักดันออกมาเป็นกฎหมายแล้ว แต่หากกระบวนการเลือกนายกฯใหม่มีความล่าช้า เชื่อว่าตลาดหุ้นอาจจะอยู่ในภาวะสุญญากาศในช่วงเวลาที่ประเทศถูกบริหารโดยครม.รักษาการณ์ได้

สุดท้าย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าศาลอาญา ยกฟ้อง คดี ม.112 ของนายทักษิณ เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ 

โดยจากนี้รอติดตามคำตัดสินคดีคลิปเสียง นายกฯ 29 ส.ค. นี้ ซึ่งหากศาลตัดสินไม่ผิด (พิจารณาว่ามีเจตนาดี) จะเป็นผลดีกับตลาด และหากนายกฯ ประกาศลาออก เรามองว่าอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นักลงทุนจะคลายกังวล หุ้นได้ประโยชน์ ADVANC,GULF, DELTA และกลุ่มธนาคาร (SCB, KTB) ดัชนีฯ อาจกลับไปทดสอบเป้า 1,280 จุด ได้อีกครั้ง