สัมภาษณ์พิเศษ : WP บุกตลาด Solar Roof ตั้งเป้าเป็น Energy Solution หวังสร้างรายได้เติบโตกว่า 10%

ธุรกิจพลังงานสะอาด หรือพลังงานสีเขียว เป็นกระแสการรักษ์โลก สะท้อนจากการเติบโตของธุรกิจ Solar Rooftop ที่ขยายตัวยอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ก็ได้ต่อยอดธุรกิจไปทำ ธุรกิจ Solar Rooftop ซึ่งบริษัทมีแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างไร เราไปติดตามกับ นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP กัน
ธุรกิจของ WP
ธุรกิจหลักของบริษัทมี สองส่วนได้แก่ ก๊าซหุงต้ม (LPG) และพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) โดยปัจจุบันธุรกิจ LPG ยังคงเป็นธุรกิจหลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของรายได้ เน้นการเติบโตในกลุ่มครัวเรือนและอุตสาหกรรม ส่วนธุรกิจ Solar Roof ที่มีสัดส่วนประมาณ 10%
สัดส่วนการสร้างรายได้ของธุรกิจ Solar Roof ในอนาคต
มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะทิศทางของพลังงานสีเขียว เป็นกระแสของโลกที่จะต้องปรับตัวไปในทิศทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจไปทำ Solar Roof
เริ่มจากบริษัทได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อสอบถามถึงความต้องการด้านพลังงานอื่น ๆ นอกเหนือจาก LPG ทำให้พบว่าลูกค้าบางรายต้องการ Solar Rooftop ด้วย ขณะที่ WP Energy เองก็มีฐานลูกค้า LPG ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้นฐานลูกค้าสำหรับธุรกิจ Solar จึงขยายตามไปด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังใช้ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปี และสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ต้น โดยบริษัทใช้จุดนี้เป็นจุดขายสำคัญในการทำธุรกิจโซลาร์ เน้นเรื่อง ความปลอดภัยและความมั่นคง
วางตำแหน่งเป็น Energy Solution
WP ไม่ได้วางตัวเองเป็นเพียงแค่ผู้ติดตั้งโซลาร์ (คนติดโซลาร์) แต่เป็นผู้ให้ บริการและโซลูชันพลังงาน (Energy Solution) ที่พยายามตอบโจทย์ลูกค้า โดยพนักงานของเราจะเข้าไปช่วยวินิจฉัยและดีไซน์ระบบโซลาร์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับลูกค้าแต่ละราย
และบริษัทเน้นการแข่งขันในด้านการบริการที่ครอบคลุมและการให้คำปรึกษาที่ดี ไม่เน้นการแข่งขันด้านราคาที่ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นการรักษามาตรฐานและคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับลูกค้า
จุดแข็งของบริษัทในการขยายธุรกิจ
WP มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและการเป็น "เพื่อน" กับลูกค้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาพลังงานของพวกเขา แนวคิดนี้คล้ายกับการดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรม LPG ที่เชื่อว่า "ต้องอยู่รอดไปด้วยกัน" ส่งผลให้คู่ค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่กับบริษัทมายาวนาน
นอกจากนี้ WP ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวและพร้อมที่จะพูดคุยกับลูกค้าในทุกระดับ (ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่) เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ช่วยเสริมความสัมพันธ์เดิม