flagship ของกลุ่ม PTT ในธุรกิจการตลาดค้าปลีกน้ำมัน และผู้นำในธุรกิจการตลาดค้าปลีกน้ำมันของประเทศไทย อย่างบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ยังคงตอกย้ำความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง
เห็นได้จากในช่วง 6 เดือนปี 2568 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 6,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและบริการรวม 349,588 ล้านบาท โดยมี EBITDA กว่า 11,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง
แม้ต้องเผชิญปัจจัยท้าทายจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ธุรกิจในกลุ่ม Lifestyle มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจให้มีความหลากหลากมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะแบรนด์ Café Amazon ที่ยังคงเติบโตดี และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเครือข่ายร้าน Café Amazon รวม 4,547 สาขา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
รวมถึงธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และ จิฟฟี่ ในประเทศไทย 2,339 สาขา รวมทั้ง found & found ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม ได้ขยายเครือข่ายครอบคลุม 10 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตอกย้ำการวางรากฐานที่มั่นคงรองรับแผนการเติบโตในระยะต่อไป
นอกจากนี้ OR ยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจดิจิทัลและการทำ Digital Transformation โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างประโยชน์เชิงกลยุทธ์และผลลัพธ์ที่จับต้องได้ โดยออกแบบและจัดทำ Digital Roadmap ที่ผนวกแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกใน 5–10 ปีข้างหน้า ร่วมกับวิสัยทัศน์ของ OR ซึ่งจะเป็นเข็มทิศหลักในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีผ่านการทำ Digital Transformation ทั้งองค์กร
OR ได้เปิดตัว แอปพลิเคชัน blueplus+ โฉมใหม่ ที่จะเป็นศูนย์กลางของ OR’s Ecosystem เชื่อมโยงข้อมูลบริการ และสิทธิประโยชน์จากทุกแบรนด์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค รวมถึงช่วยให้ OR เข้าใจลูกค้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา OR และพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งได้แก่ KTB และ ADVANC ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568
โดย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 OR และพันธมิตรทางธุรกิจได้ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท ไทย ทรินิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (HoldCo) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น ณ วันจัดตั้ง คือ OR มีสัดส่วนถือหุ้น 20% KTB มีสัดส่วนถือหุ้น 41% และ ADVANC มีสัดส่วนถือหุ้น 39% และในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 OR และพันธมิตรทางธุรกิจได้ร่วมกันจัดตั้ง ธนาคาร คลิกซ์ จำกัด (มหาชน) (VBCo) โดยให้ HoldCo เป็นผู้ถือหุ้น VBCo ในวันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในสัดส่วน 95% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยคาดเปิดบริการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาได้ภายในปี 2569
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท โดยคาดปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 55% จากปีก่อน
OR มีแผนขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ และปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพและความงาม รวมถึงโรงแรมราคาประหยัด โดยมองว่ากลยุทธ์ดังกล่าว จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการน้ำมันของ OR ด้วยการดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil)
นอกจากนี้ OR ยังเดินหน้ากลยุทธ์อย่างรวดเร็ว สู่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยบริษัทฯ ได้ขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ EV เป็น 2,576 หัวชาร์จในไตรมาส 2/2568 และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 2,956 หัวชาร์จภายในปี 2568 ทำให้ OR มีโอกาสที่ดีในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้งาน EV ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาส 2/2568 สัญญาณความสำเร็จเริ่มปรากฏให้เห็น ซึ่งมีอัตราการใช้สถานีชาร์จ EV ของ OR เพิ่มขึ้นเป็น 6 ชม./สถานี/วัน จาก 4.8 ชม. ในปี 2567
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด แนะนำ OUTPERFORM และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 18 บาท จาก 16.40 บาท
โดยคาดว่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมันจะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่ถูกลงในปัจจุบัน ซึ่งยังช่วยลดการแทรกแซงของภาครัฐเพื่อตรึงราคาน้ำมันในประเทศด้วย ทั้งนี้สถานะทางการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 โดยมีตัวเลขขาดดุลล่าสุดอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เทียบกับ 1.11 แสนล้านบาท ในเดือนก.ค. 2567 โดยมีเงินไหลเข้าเฉลี่ย 6 พันล้านบาท/เดือน จากยอดขายปลีกน้ำมัน
นอกจากนี้คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันตามฤดูกาลและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ รวมถึงโครงการ “คนละครึ่ง” ที่กลับมาอีกครั้ง จะช่วยกระตุ้นการบริโภคน้ำมันในประเทศในไตรมาส 4/68 ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน โดยเฉพาะ Café Amazon
อีกทั้ง OR ยังมีแนวโน้มที่จะเปิดตัวแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มใหม่เพื่อทดแทน Texas Chicken ที่ปิดตัวลงในเดือนก.ค. 2567 โดยการลงทุนครั้งใหม่อาจมีขนาดใหญ่ เนื่องจากบริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วเพียง 2 พันล้านบาท ในครึ่งปีแรก 68 จากงบประมาณทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 1.88 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทใช้เงินสดที่มีอยู่จำนวนมากอย่างระมัดระวังภายใต้แผนการลงทุนที่มีจำกัด
ยอดนิยม
_0.jpg)
จับตา “อนุทิน” แถลงนโยบายวันนี้ อาจมีเซอร์ไพรส์! พร้อมเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เป็นโอกาสทองหุ้นได้ประโยชน์
%20copy_0.jpg)
Jump+ หนุนโต! บจ.ไทยแห่เข้าร่วมมากกว่าคาด ยกระดับศักยภาพ เพิ่มมูลค่าอย่างยั่งยืน
_0.jpg)
ทองคำเดือด! ออลไทม์ไฮไม่เลิก เสี่ยงชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ จุดไฟราคาพุ่งต่อหรือตีลังกาลงทันที
_0.jpg)
โครงการ “คนละครึ่ง” ไม่เล็ก คาดเม็ดเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท เขย่าเศรษฐกิจไทย 2 เดือน GDP พุ่ง 4%
_0.jpg)