Talk of The Town

หุ้นไทยพุ่งแรงชนะเกือบทุกประเทศ แค่ DELTA-THAI ดันดัชนีสูงถึง 112 จุด เตือนระวังแรงขายทำกำไร ฉุด SET ดิ่ง


15 สิงหาคม 2568

โบรกฯ ชี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นแรง 16.3% ตั้งแต่ ก.ค.68-ปัจจุบัน ชนะเกือบทุกประเทศ รับแรงหนุนจาก DELTA และ THAI ที่ปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงดันดัชนี 112 จุด แต่ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเห็นเม็ดเงินย้ายจาก SAFE HAVEN มาสู่ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น แนะนำสะสมหุ้นใหญ่พื้นฐานดี และหุ้นขนาดกลางปัจจัยหนุนรอบด้าน

หุ้นไทยพุ่งแรงชนะเกือบทุกประเทศ_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนี SET INDEX ปรับตัวขึ้นแรง 16.3% ตั้งแต่ ก.ค.68-ปัจจุบัน ชนะเกือบทุกประเทศ ทั้งกลุ่ม TIP เอเชียเหนือ สหรัฐฯ และโซนยุโรป แพ้เพียงเวียดนามประเทศเดียวที่ บวก 19.2% ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ดันดัชนี SET ขึ้นได้ คือTRADE WAR ผ่อนคลาย, การเมืองไทยที่ชัดเจนขึ้น, คาดหวังดอกเบี้ยขาลง, งบประมาณปี 69 ไม่ล่าช้า และกำไรครึ่งปีแรก 68 ดูสดใส เป็นต้น โดย SET INDEX โดนรุมซื้อสุทธิจาก FLOW สถาบัน และต่างชาติ กว่า 1.06 หมื่นล้านบาท และ 1.40 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นมานั้น หลักๆ คือ กลุ่ม ETRON อย่าง DELTA และ กลุ่ม TRANS อย่าง THAI ที่ปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงกว่า 57.3% และ 69.5% ตามลำดับ (THAI ใช้ราคาปิดหลังวันกลับเข้าเทรด 1 วัน) ซึ่งรวมกันดันดัชนี 112 จุด จากดัชนี SET INDEX ที่ขึ้นมา 177 จุด(+16.3%) หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 63% จึงทำให้หากมีแรง TAKE PROFIT ในช่วงสั้นของนักลงทุนสำหรับ 2 หุ้นดังกล่าว ก็อาจทำให้ภาพรวมดัชนีปรับฐานลงได้ช่วงสั้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเห็นเม็ดเงินย้ายจาก SAFE HAVEN มาสู่ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ด้วยหลายปัจจัย คือ ดอกเบี้ยนโยบายลดลงเหลือ 1.5% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จูงใจให้คนหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตราสารหนี้เกิด BULL STEEPENING YIELD ตราสารระยะสั้นที่ปรับตัวลงแรงกว่าระยะยาว มักจะเกิดขึ้นเวลาเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม 

และมูลค่า MARKET CAP ตราสารหนี้ 17.5 ล้านล้านบาท ยังสูงกว่าตลาดหุ้นที่ 16.1 ล้านล้านบาท ถ้ากลับขึ้นไปเท่ากัน SET เท่ากับ 1405 จุด (ปกติ MARKET CAP ตลาดหุ้นจะสูงกว่าเสมอ) 

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน ในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หวังเม็ดเงินจากตลาดเงิน, ตลาดตราสารหนี้ กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นเพิ่มเติม แนะสะสมหุ้นใหญ่พื้นฐานดี GULF, BDMS และหุ้นขนาดกลางปัจจัยหนุนรอบด้าน SPALI, CK, COCOCO