Talk of The Town

ครึ่งแรกปี 68 พบ 10 บจ. แตกพาร์-รวบพาร์ พบหุ้นเล็กเน้นรวบพาร์ ดันราคาสูง


17 กรกฎาคม 2568

ครึ่งแรกปี 68 พบ 10 บจ._S2T (เว็บ)_0.jpg

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 พบมี 10 บริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงราคามูลค่าที่ตราไว้ หรือ พาร์ โดยส่วนใหญ่ได้ทำการรวบพาร์มากกว่า แตกพาร์ มีรายละเอียดดังนี้

JCKH  รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 0.25  บาท เป็น 3.75  บาท  

AKS รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 0.50 บาทเป็น 11.50  บาท      

CHO รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 5.00  บาทเป็น 25.00  บาท   

CV รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 0.50  บาทเป็น 1.00  บาท         

ECF รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 0.25  บาทเป็น 5.00 บาท        

HYDRO รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่ 1.00  บาทเป็น    8.00  บาท             

PSG รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่  1.00  บาท เป็น 4.00  บาท

ZAA รวบพาร์จากเดิมอยู่ที่  0.50  บาท 1.00  บาท             

ขณะที่มีเพียง 2 บริษัทที่มีการแตกพาร์ ประกอบด้วย MTI แตกพาร์จาก 10.00  บาท เป็น 1.00  บาท

TFM แตกพาร์จาก 2.00  บาท 1.00  บาท

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่า การแตกหุ้น (Stock Split) จะทำให้หุ้นมีสภาพคล่องสูงขึ้น จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นและราคาหุ้นที่ลดลงดึงดูดให้ผู้ลงทุนรายย่อยลงทุนในหุ้นของบริษัทได้ง่ายขึ้น

โดยประโยชน์ในการแตกพาร์ในส่วนของ บริษัทจะได้รับเพิ่มการกระจายการถือหุ้นไปยังผู้ลงทุนกว้างขึ้น มีสภาพคล่องของหุ้นสูงขึ้น และเป็นที่น่าสนใจของผู้ลงทุนมากขึ้นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น สามารถซื้อขายหุ้นได้คล่องขึ้น และมีความเป็นไปได้ ที่ได้รับกำไร จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น 

ในทางกลับกัน การรวมหุ้น (Reverse Stock Split) ให้ผลตรงข้ามกับการแตกหุ้น โดยในบางสถานการณ์ การรวมหุ้นอาจทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะการลดลงของจำนวนหุ้นและการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นอาจส่งผล ให้มูลค่าการซื้อขายลดลง และทำให้ความผันผวนของหุ้นลดลงตามไปด้วย

การรวมหุ้นอาจทำให้จำนวนผู้ถือหุ้นลดลง เพราะหลังจากการรวมหุ้นอาจเกิดเศษหุ้น ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นบางรายได้รับเงินสดแทนและไม่ถือหุ้นอีกต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทจะได้ประโยชน์ในสร้างเสถียรภาพ ลดความผันผวนของราคาหุ้น และใช้เป็นเครื่องมือจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้น (ในกรณีที่บริษัทไม่ต้องการมีผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นจำนวนมาก)

ในส่วนของผู้ถือหุ้น จะสามารถสร้างเสถียรภาพของราคาหุ้น ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนบางประเภทเช่น ผู้ลงทุนระยะยาวที่มีการลงทุนแบบ Buy & Hold หรือไม่ชอบ หุ้นที่ผันผวน