Talk of The Town

2 โบรกฯ รุม! TISCO แนะ “ขาย” เหตุมูลค่า “แพง” ชี้มีหุ้นแบงก์อื่นปันผลดีกว่า


16 กรกฎาคม 2568

เกิดอะไรขึ้น นักวิเคราะห์เชียร์ “ขาย” TISCO  โดยให้เหตุผลว่า มูลค่าแพง เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร เผยหุ้นธนาคารยังมีอีกหลายบริษัทที่ปันผลดี มองแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ฟอร์มแผ่วต่อ ฉุดทั้งปี 2568 คาดกำไรสุทธิ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อน เนื่องจากอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงขึ้น

2 โบรกฯ รุม! TISCO_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

โดย ล่าสุด TISCO รายงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,644 ล้านบาท ลดลง 6.2% เทียบกับไตรมาส 2/2567 จากรายได้รวมที่อ่อนตัวลง 2.9% เนื่องมาจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”

อีกทั้ง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนชะลอตัวลง ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลงในภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.0% ของสินเชื่อเฉลี่ย ตามแผนการปรับสำรองกลับเข้าสู่ระดับปกติ พร้อมรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ในขณะเดียวกัน บริษัทยังคงดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับลดลง 7.0%

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปรับลดคำแนะนำสำหรับ TISCO จาก “ถือ” เป็น “ขาย” และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 83 บาท จาก 94 บาท เนื่องจากเชื่อว่า DPS ที่ระดับ 7.75 บาทมีส่วนต่างกำไรที่รองรับค่อนข้างเบาบาง

อีกทั้งการประเมินมูลค่าที่แพง โดย TISCO ซื้อขายด้วย PBV ปี 2568–69 ที่ 1.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 0.7 เท่า PBV ของ TISCO ที่สูงกว่ากลุ่ม สะท้อนการให้ ROE ที่ดีกว่าประมาณ 15% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 8–9% ในปี 2568–69

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อน ROE ที่ 18%  ดูเป็นระดับที่บรรลุได้ยาก ภายใต้ประมาณการ ROE ที่ 15.2–15.4% ในปี 2568–69 และสภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ ดังนั้น เชื่อว่า PBV ของ TISCO อาจมีโอกาสถูกปรับลดลงอีก เนื่องจาก ROE มีแนวโนม้ ลดลงมาอยู่ที่ 15.2–15.7% ในปี 2568–70 เทียบกับ 17% และ 16% ในปี 2566–67

อีกทั้งมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นในแง่ของอัตราตอบแทนจากเงินปันผล ในกลุ่มธนาคาร ไม่ใช่แค่ TISCO เท่านั้น โดยยังเชื่อ ว่านักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น ในการแสวงหาเงินปันผล เนื่องจากธนาคารหลายแห่งได้ปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมาเพื่อบริหารเงินทุน เชื่อว่าอัตราตอบแทนจากเงินปันผลของ TISCO ที่ 7.8% ยังต่ำกว่า SCB ที่ 9%, KKP ที่ 7.9% และ TTB ที่ี 7.1% (รวมกับผลตอบแทนจากการซื้อหุ้นคืนอีก 3%)

ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ยังคงคาแนะนา ขาย โดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร เราชอบ BBL และ KTB มากกว่า โดยให้ราคาเป้าหมาย 88.00 บาท โดยมองแนวโน้มไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก NIM ที่ลดลงและอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่เพิ่มขึ้น และประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อน เนื่องจากอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงขึ้น