Talk of The Town

เทียบฟอร์ม 5 หุ้น IPO ปี 68 เทรดวันแรกใครปังสุด!


12 มิถุนายน 2568

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในปี 2568 ถือเป็นปีที่ท้าทายบริษัทจดทะเบียนทั้งบริษัทเดิมและบริษัทน้องใหม่ที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาด ด้วยปัจจัยกดดันหลายๆด้านเข้ามากดดันต่อบรรยากาศการลงทุน จนสะท้อนมายังราคาหุ้นของหลายบริษัทให้ปรับตัวลดลง

เทียบฟอร์ม 5 หุ้น IPO ปี 68_S2T (เว็บ).jpg

ดังนั้น ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงอยากจะยกข้อมูลที่เราได้รวบรวมอย่างฟอร์มของหุ้นไอพีโอที่เข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯของปี 2568 มานำเสนอให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนที่ติดตามข่าวสารกันในครั้งนี้

เริ่มกันที่ บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบพัฒนา และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย และเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร เช่น CCTV, Access Control และระบบอ่านป้ายทะเบียนรถ และการบำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้อง

โดยได้ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 140 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด หลังเสนอขาย IPO ที่ราคา 3 บาทต่อหุ้น และได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) ในวันที่ 20 ม.ค. 68 ซึ่งราคาเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 3.90 บาท ปรับตัวขึ้น 30% จากราคาไอพีโอ และราคาปิดตลาดวันแรกที่ 3.60 บาท ปรับตัวขึ้น 20% จากราคาไอพีโอ

บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านสำนักงานใหญ่และร้านสาขาชื่อ “Mother Supermarket” และ “ Mother Marche” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่งในจังหวัดกระบี่ และสุราษฎร์ธานี

สำหรับการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ได้ขายหุ้นจำนวน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.07% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด หลังเสนอขาย IPO ซึ่งที่ราคา 1.40 บาทต่อหุ้น และได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) ในวันที่ 11 ก.พ. 68 ราคาเปิดการซื้อขายวันแรกอยู่ที่ 2.16 บาท ปรับตัวขึ้น 54% จากราคาไอพีโอ และราคาปิดตลาดวันแรกที่ 1.61 บาท ปรับตัวขึ้น 15% จากราคาไอพีโอ

บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH ที่ได้ประกอบธุรกิจหลัก อย่างธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ (ออนไลน์) ผลิตเนื้อหาแบบ Organic และ Paid Content, เผยแพร่บนเว็บไซด์และโซเชียลมีเดียผ่าน ลงทุนแมน, ลงทุนเกิร์ล, MarketThink, BrandCase, Money LAB และ Mao-Investor และให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร และ ธุรกิจออฟไลน์

สำหรับการขายหุ้นไอพีโออยู่ที่จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด หลังเสนอขายไอพีโอ ได้กำหนดราคาไอพีโอที่ 5 บาทต่อหุ้น และได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) ในวันที่ 2 เม.ย. 68 ซึ่งราคาเปิดการซื้อขายวันแรกที่ 5.25 บาท ปรับตัวขึ้น 5% จากราคาไอพีโอ และราคาปิดตลาดวันแรกที่ 5.05 บาท ปรับตัวขึ้น 1% จากราคาไอพีโอ

บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA ที่ประกอบธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านแต่ง “Flipping”), ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการรับฝากขายบ้านมือสอง (ธุรกิจบ้านฝาก) และธุรกิจซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านตัด)

ได้เข้าระดมทุนด้วยการขายหุ้นไอพีโอที่จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด หลังเสนอขายไอพีโอ ได้กำหนดราคาไอพีโอที่ 1.80 บาทต่อหุ้น และได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันที่ 22 เม.ย.68 ราคาเปิดการซื้อขายวันแรกที่ 2.40 บาท ปรับตัวขึ้น 33% จากราคาไอพีโอ และราคาปิดตลาดวันแรกที่ 2.46 บาท ปรับตัวขึ้น 36% จากราคาไอพีโอ

และสุดท้ายบริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทบำรุงสุขภาพ, รูปร่าง และผิวและผม และเครื่องสำอางประเภท Personal Care และ Skin Care ทั้งภายใต้แบรนด์ของบริษัท, แบรนด์ร่วมและผลิตภัณฑ์ขายร่วมภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก

โดยได้กำหนดการขายหุ้นไอพีโอจำนวน 37 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.83% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด หลังเสนอขายไอพีโอ และกำหนดราคาไอพีโอที่ 6.80 บาท ซึ่งได้เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันที่ 11 มิ.ย. 68 ราคาเปิดการซื้อขายวันแรกที่ 6.20 บาท ลดลง 8.82% จากราคาไอพีโอ และราคาปิดตลาดวันแรกที่ 5.20 บาท ปรับตัวลดลง 23% จากราคาไอพีโอ

เทียบฟอร์ม-5-หุ้น-IPO-ปี-68.jpg