Talk of The Town

OR ลุ้นไตรมาสแรกฟาดกำไร 3,647 ล้านบาท รับราคาน้ำมันพุ่ง ยอดขาย Café Amazon นิวไฮ แต่โบรกฯ ประสานเสียงแนะ “เก็งกำไร-ขาย”


01 พฤษภาคม 2567
TOT แนวนอน OR ลุ้นไตรมาสแรกฟาดกำไร 3,647 ล้านบาท_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จะอยู่ที่ 3,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 346% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน แม้ปริมาณขายน้ำมันจะลดลง 7% จากไตรมาสก่อน 


แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากค่าการตลาดที่คาดฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 1.15 บาทลิตร เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหลังบริษัทฯ มีการปรับราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (ความถี่ในการปรับราคาขายตาม ราคาน้ำมันสูงขึ้น) และการบันทึกกรายการ Stock Gain ราว 400 ล้านบาท (ผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในเดือน ก.. - มี.ค.) 

ขณะเดียวกันคาดปริมาณขายของ Cafe Amazon ที่ 99 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน ซึ่งไทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส หลังสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นส่งผลให้ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

อีกทั้งคาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 7,370 ล้านบาท และลดลง 3% จากปีก่อน หลังบริษัทมีการทำกิจกรรมทางการตลาดลดลง หากกำไรปกติไตรมาส 1/67 ออกมาใกล้เคียงคาด จะคิดเป็นสัดส่วน 30% ของกำไรทั้งปี

สำหรับ แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ทรงตัวจากปีก่อนเบื้องต้นคาดกำไรปกติ ที่ระดับ 2,500-2,600 ล้านบาท 

สาเหตุที่ลดลงจากไตรมาสก่อนเนื่องจากตามปริมาณขายน้ำมันรวมที่มีแนวโน้มลดลงจากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน (Low Season ของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ) และค่าการตลาดที่คาดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.90-1.00 บาทลิตร หลังราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัว (คาดมี StockGain น้อยกว่าช่วงไตรมาส 1/67 และบริษัทฯ มีการตรึงราคาขายน้ำมันในช่วงวันหยุดสงกรานต์ (ประสิทธิภาพในการปรับราคาขายน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส1/67) 

อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติไตรมาส 2/67 จะสามารถทรงตัวได้ จากปีก่อนแม้ปริมาณขายน้ำมันมีแนวโน้มลดลงโดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายของ Cafe Amazon ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง (ผลจากอากาศที่ร้อนขึ้น) และค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่าจากการประชุมนักวิเคราะห์ OR เผยว่าส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทลดลงในไตรมาส 1/67 เนื่องจากข่าวเชิงลบบนสื่อโซเชียล แต่ค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินน่าจะช่วยชดเชยผลกระทบ

ผลกระทบจากการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลยูโร 5 ยังมีจำกัด เนื่องจาก OR กล่าวว่าบริษัทสามารถขายปลีกน้ำมันเบนซินในราคาพรีเมียมจึงน่าจะทำให้ค่าการตลาดในไตรมาส1/67 อยู่ที่ประมาณ 1 บาท/ลิตร (รวมกำไรจากสต๊อกน้ำมันเล็กน้อยเทียบกับ 0.75 บาท/ลิตรในไตรมาส4/66 )

โดย OR ให้แนวทางว่าร้าน Café Amazon จะมียอดขายกาแฟเพิ่มขึ้นเป็น 99 ล้านแก้ว ขณะที่ผลกระทบจากต้นทุนโกโก้ที่แพงขึ้นไม่กระทบ EBITDA margin ของบริษัทมากนัก เพราะจะชดเชย ด้วยต้นทุนแก้วพลาสติกที่ลดลง

[แนะนำเก็งกำไร-ขาย เป้าหมาย 17 บาท]

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินเมินคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 20.10 บาทต่อหุ้น อิง PER ที่ 20.1 เท่า รวมพรีเมียม 2% จาก YuantaESG Rating ที่ระดับ AA แล้ว มี Upside 11% 
โดยในช่วงสั้นเรามองว่าหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวได้จากแนวโน้มกำไร 1/67 ที่เติบโตเด่นทั้งจากไตรมาสก่อน และจากปีก่อน อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาวจะยังคงถูกจำกัดจาก ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริษัท ในอนาคตหลังบริษัทยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญจากการทำ M&A หรือการลงทุนใน JV ได้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงคงคำแนะนำ "TRADING" โดยเรามองว่าหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งที่ระดับราคาต่ำกว่า 17.50 บาทต่อหุ้น

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่าอย่างไรก็ตามเชื่อว่าค่าการตลาดอาจลดลงในไตรมาส 2/67 จากการแข่งขันด้านราคาในตลาดค้าปลีกน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้เรามองว่ามาร์จินน้ำมันดีเซลของ OR มีความเสี่ยงจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ต้องการให้ราคาเชื้อเพลิงในประเทศอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นยังแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 17 บาท
OR