Talk of The Town

กางพอร์ต "เสี่ยยักษ์" เซียนหุ้นชื่อดัง พบมูลค่ากว่า 3.16 พันล้านบาท


20 เมษายน 2567
TOT แนวนอน “เสี่ยยักษ์” ถือหุ้น BEM เพิ่ม_0.jpg

จากการสำรวจข้อมูลการลงทุนของ "วิชัย วชิรพงศ์" หรือเสี่ยยักษ์ นักลงทุนหลายใหญ่ที่คนในวงการตลาดทุนรู้จักกันเป็นอย่างดี ล่าสุดพบว่า ในเดือนมีนาคม 2567 เสี่ยยักษ์ได้ลงทุนในหุ้น 7 บริษัท มูลค่ารวม 3,161 ล้านบาท ประกอบด้วย 


หุ้น BEM  จำนวน 342,740,157 หุ้น คิดเป็น 2.24% มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 2,810.46 ล้านบาท  หุ้น BIS  13,701,800 หุ้นคิดเป็น 4.36% มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 46.03 ล้านบาท 

หุ้น BWG 152,117,600 หุ้น คิดเป็น 2.82% มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 71.49 ล้านบาท หุ้น ETC 68,453,800 หุ้น คิดเป็น 3.06%มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 175.24 ล้านบาท 

หุ้น NAM 6,879,600หุ้นคิดเป็น 0.98%มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่  32.05 ล้านบาท หุ้น PACE 284,965,300 หุ้นคิดเป็น 1.98%มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่8.54 ล้านบาท  หุ้น PPM 7,674,000 หุ้นคิดเป็น 1.82%มูลค่าถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่17.49 ล้านบาท 

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากข้อมูลข้างต้นย้อนหลังจะพบว่า เสี่ยยักษ์ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น BEM มากสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าในปี 2567 ถือหุ้นเพิ่มเป็น 342,740,157หุ้น คิดเป็น 2.24% จากปี 2566 ถือครอง 295,980,057 หุ้นคิดเป็น 1.94%ในปี 2565 ถือครอง 316,825,657 หุ้นคิดเป็น 2.07%
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น BEM  ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 3.14% จากราคา 7.90 บาท มาอยู่ที่ 8.20 บาท โดยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 8.40 บาท 

[ส่องแนวโน้มหุ้น BEM]

บล.ทิสโก้ ระบุว่า  แนะนำ “ซื้อ”BEM มูลค่าที่เหมาะสม 11 บาท เนื่องจาก แนวโน้มผลการดำเนินงานยังดี โดย BEM รายงานตัวเลขเดือนมี.ค.ไม่โดดเด่น เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ BEM จาก 1) แนวโน้มรถใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 2) คาดผลประกอบการ ไตรมาส 1/67 เติบโต จากปีก่อน จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร และ 3) คาดปี 67 เราคาดกำไรปกติจะทำระดับสูงสุดใหม่  ด้วยการเติบโตของรถใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้า รวมถึง Potential projects หลายโครงการ

ทั้งนี้ตัวเลขเดือนมี.ค.รถใช้ทางด่วนลดลงจากปีก่อน ใกล้เคียงก.พ. ส่วนผู้โดยสารลดจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังโตเติบได้ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดย BEM รายงานตัวเลขในเดือนมีนาคม ด้วยจำนวนรถใช้ทางด่วนที่ 1.13 ล้านคันต่อวัน (-1.85% จากปีก่อน, -0.1% จากเดือนก่อนหน้า) เนื่องจากเริ่มปิดเทอมตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนมี.ค.และ Motor show ปีนี้จัดช่วง 27 มี.ค.-7 เม.ย. ในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ในช่วง 22 มี.ค.-2 เม.ย. 

ส่วนจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 4.21 แสนเที่ยวต่อวัน (12% จากปีก่อน แต่ลด 6% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม) โดยผู้โดยสารวันทำงานอยู่ที่ 4.71 แสนเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.3% จากปีก่อน แต่ลด 6.7% จากเดือนก่อน 
หากเราดูตัวเลขไตรมาส 1/67 จำนวนรถใช้ทางด่วนจะอยู่ที่ 1.124 ล้านคันต่อวัน (-0.39% จากปีก่อน, -0.13% จากไตรมาสก่อนหน้า) ในขณะที่จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 4.30 แสนเที่ยวต่อวัน (+13% จากปีก่อน, +3% จากไตรมาสก่อน)

[คาด BEM ทำกำไรปกติสูงสุดใหม่ในปี 67]

จำนวนผู้โดยสารไตรมาส 1/67 ที่ออกมาเติบโตจากปีก่อน ดีกว่าสมมติฐานของปี 67 ของเราที่คาดจะเติบโต 8% แต่ตัวเลขรถใช้ทางด่วนที่ลดลงแย่กว่าสมมติฐานของเราที่คาดว่าจำนวนรถใช้ทางด่วนจะเติบโต 2% 

ดังนั้นจึงยังคงประมาณการของเราไว้ โดยคาดกำไรปกติจะทำระดับสูงสุดใหม่ (Record High) อยู่ที่ 3,958 ล้านบาท (14% จากปีก่อน) จากสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารในปี 67 จะอยู่ที่ 4.22 แสนเที่ยวต่อวัน (+8%) และรถใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.14 ล้านคันต่อวัน (+2%) 

จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและการลดค่าโดยสารสายสีแดงและม่วงเหลือ 20 บาทตลอดสายก็ช่วยส่งให้ผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเปิดอสังหาริมทรัพย์รอบเส้นทาง เช่น โครงการ One Bangkok และ Dusit Park เฟสแรกที่จะเปิดในครึ่งหลังของปี 67 ส่วนความสามารถในการทำกำไรคาดว่าจะดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดี

[คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมใหม่อยู่ที่ 11 บาท]

ทั้งนี้ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ BEM โดยวิธี Sum-of-parts อยู่ที่ 11 บาท ซึ่งยังมี Upside ถึง 34% นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสได้งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และโครงการ Double Deck ซึ่งทั้งหมดน่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้และยังไม่รวมในประมาณการของเรา ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” BEM ปัจจัยเสี่ยงมาจากจำนวนรถใช้ทางด่วนและผู้โดยสารที่ต่ำกว่าคาด


เสี่ยยักษ์ ถือหุ้น BEM เพิ่ม-01_0.jpg