จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TACC รุกธุรกิจ Health and Wellness หนุนรายได้โตยั่งยืน โบรกฯแนะนำ “ซื้อ”


12 เมษายน 2566
บมจ. ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC)  ต่อยอดธุรกิจ บุกตลาด Health and Wellness  ทุ่มงบ 40 ล้านบาท ซื้อแบรนด์  Bloss Natura   ขณะที่โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ”  ราคาเป้าหมาย  9.7 บาท 
รายงานพิเศษ TACC รุกธุรกิจ Health and Wellness.jpg
Global Wellness Institute (GWI) รายงานว่าปี 2568 มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพของทั้งโลก จะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้านบาท  ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของ บมจ. ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) “ชัชชวี  วัฒนสุข” ประธานกรรมการบริหาร ระบุว่า บริษัททุ่มเงิน 40 ล้านบาท เข้าลงทุนธุรกิจ Health and Wellness ผ่านการเข้าซื้อการดำเนินการของ บริษัท บลัช บิวตี้ (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี  ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัทย่อยใหม่ในนาม บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ในสัดส่วน 89% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นของผู้ถือหุ้นเดิม โดยใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท
          
"การเข้าลงทุนใน HIP ครั้งนี้  ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าบริษัทมุ่งมั่นในการรุกเข้าธุรกิจ Health and Wellness และเห็นถึงความแข็งแกร่งของ Brand Bloss Natura ซึ่งสินค้าที่เราส่งต่อถึงมือผู้บริโภคเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และมาตรฐานสูงที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยมีฐานลูกค้าและเป็นที่ยอมรับในตลาดของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ และรีเทล อีกทั้งยังเป็นการปูทางให้บริษัทก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจ Health and Wellness ครบวงจร และสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจของ TACC ได้"นายชัชชวี กล่าว
          
สำหรับผลิตภัณฑ์ความงามและอาหารเสริมแบรนด์ Bloss Natura ที่วางจำหน่ายในตลาด ปัจจุบันประกอบด้วย Body & Skin Supplement (Jeli) และ Skincare โดยมีดาราชั้นนำของเมืองไทยอย่าง คิมเบอร์ลี่ เป็นพรีเซนเตอร์ สินค้า ครีมกันแดด
          
เป้าหมายรายได้คาดว่าในปี 67 จะมียอดขาย 100 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 2/66 ทั้งนี้ Bloss Natura ถือเป็นสินค้าคุณภาพสูงที่ผลิตจากเกาหลีและนำเข้ามาไทย โดยสินค้าเจลลี่ (Jeli) มีการดูดซึมดีกว่ารูปแบบอื่น และได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่นำมาใช้ฟูดส์ซัพพรีเมนท์แบรนด์ และถือว่าเป็น 1 ในผู้นำแบรนด์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริม ที่มีฐานลูกค้าออนไลน์เป็นจำนวนมาก ขณะที่โรงงานผลิตใหญ่ติด 1 ใน 3 ของเกาหลีใต้

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทมีมุมอง Neutral ต่อประเด็นดังกล่าว เพราะเรายังไม่ทราบถึงรายละเอียดของดีลดังกล่าว รวมไปถึงกลยุทธ์ในการเติบโตเพื่อบรรลุเป้ารายได้จากทางบริษัทเพิ่มเติม ทั้งนี้เบื้องต้นหากอ้างอิงจากข้อมูลงบการเงินที่รายงานในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าในปี 2020-21 บริษัท บลัช บิวตี้ (ไทย) จำกัด มีรายได้ 83 ลบ./56 ลบ. และกำไรสุทธิที่ 1.5 ลบ./ขาดทุน -12 ลบ. ตามลำดับ

และจากข่าว TACC ตั้งเป้าหมายรายได้จากธุรกิจใหม่ราว 100 ลบ. ในปี 24F ซึ่งเรายังรอ TACC อัพเดทถึงกลยุทธ์การเติบโต  การต่อยอดจากธุรกิจดังกล่าว เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในระยะถัดไป ทั้งนี้เป้าหมายรายได้ที่ 100 ลบ. คิดเป็นสัดส่วนราว 5-6% ของรายได้  

ขณะที่ Net margin ธุรกิจอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฯ (MEGA, IP, KISS) เฉลี่ยอยู่ที่ราว 12-15% หรือคิดเป็น EPS ราว 0.02 บ./หุ้น จะคิดเป็น upside จากประมาณการปี 24F ของเราราว 4-5% ดังนั้น หากทำได้ตามเป้า เรามองเป็นบวกเล็กน้อย  เนื่องจาก Key driver หลักราว 90% ยังพึ่งพิงกับการเติบโตของ 7-11 เป็นหลัก

สำหรับแนวโน้ม 1Q23F เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิที่ราว 46 ลบ. (-24%y-y, +3%q-q) ลดลง y-y เพราะคาด GPM ลดลง y-y จากสต๊อกราคาต้นทุนวัตถุดิบอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่คาดว่าฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย q-q จากแนวโน้มต้นทุนในสต็อกที่คาดว่าจะค่อยๆทยอยดีขึ้นมองผ่านจุด Bottom จากใน 4Q22 ที่ผ่านมา

คงคำแนะนำ “Buy” TP 9.70 ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PE 13.5X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตราว -1.75SD  โดยมีจ่ายปันผล 0.19 บ./หุ้น (Yield 3.2%) ขึ้น XD 8 พ.ค. 23 รวมทั้งปี คิดเป็น 0.36 บ./หุ้น (Yield 6%)