Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 10-04-23


10 เมษายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 10-04-23

10-04-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***เรื่องของ TIDLOR ไม่มีอะไรต้องตกใจ!!! "ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล" ออกมาบอกให้ฟังดังๆ ชัดๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของ SACA (เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่) เป็นเพียงการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน TIDLOR เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของ SACA ซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม 9 Basil สามารถเข้าถือหุ้นติดล้อได้โดยตรง โดยเหตุการณ์ดังกล่าว SACA ไม่ได้มีการขายหุ้น TIDLOR ออกไปยังภายนอกและปัจจุบันยังเป็นการถือหุ้นร่วมกันของบริษัทในกลุ่ม SACA โดยมีสัดส่วน 25% เช่นเดิม

***ที่สำคัญกลุ่ม 9 Basil เป็นสถาบันที่เลือกลงทุนกับธุรกิจและองค์กรชั้นนำที่มีศักยภาพสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ในอนาคต จึงถือเป็นเรื่องดีๆ ที่ได้รับความสนใจร่วมลงทุนโดยตรงจากกลุ่ม 9 Basil  ทาง TIDLOR ฝากบอกว่า..ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com หรือเยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่ www.tidlor.com และ Facebook เงินติดล้อ

**ว๊าววววว!!! มาแล้วค่ะ!!! ถึงคิวของ IHL เค้าล่ะ ตอนนี้ธุรกิจใหม่กำลังไปได้สวย โดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ล่าสุด!!! ได้ยินว่าสามารถเจรจาปิดดีลลูกค้าเพิ่มได้อีก 2 ราย จากเดิม 5 ราย ทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรป จะเริ่มมีออเดอร์เข้าเดือนมิถุนายน 66 นี้ก็สามารถรับรู้รายได้ทันที  ทางด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแร๊งงงงง “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” กระซิบว่าปีนี้ยังจะมีข่าวดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเดิมและกลุ่มธุรกิจใหม่ เอาเป็นว่าไม่ต้องพูดเยอะ..รอดูผลงานกันดีกว่าเนอะ!!!

***มีรายงานผลที่ กกพ. ประกาศผลประมูลโรงไฟฟ้า 5.2MW โดยมีโครงการผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 4.9GW โดยมีบริษัทในตลาดหุ้นที่ได้โครงการไปพัฒนา อาทิ  GULF1,624MW, GUNKUL 832MW, BGRIM 339MW, SSP 171MW, ACE 113MW, TSE 70MW, RATCH 20MW, GPSC 16MW, BCPG 12MW

***เกี่ยวกับประเด็นนี้ เซียนหุ้นบอกว่ามีมุมมองเป็นบวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการได้โครงการใหม่มาพัฒนาเพิ่มเติมหนุนรายได้ในอนาคต ทั้งนี้กำลังรอเชคกับทางบริษัทว่าสัดส่วนการถือหุ้นแต่ละโครงการเป็นเท่าไหร่ แต่จากการประเมินเบื้องต้นอิงราคาขายไฟฟ้า solar ที่ 2.17 บาท/หน่วย และลมที่ 3.10 บาท/หน่วย ประเมินกำไรเฉลี่ยต่อปีของโซลาร์อยู่ที่ราว 0.9 ล้านบาท/MW และลมอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท/MW หากอิงตัวเลขกำลังการผลิตจากข่าวข้างต้นและอิงสัดส่วนการถือหุ้น 100% จะเป็น upside ให้กับหุ้นที่ cover อยู่หลังทุกโครงการ COD แล้ว โดยใช้ปี 2023E เป็นปีฐานดังนี้ GUNKUL +53%, BGRIM +16%, SSP+15%, GULF+12% (ทั้งนี้รอความชัดเจนแต่ละบริษัทถึงสัดส่วนการถือหุ้น) โดยเรายังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า “มากกว่าตลาด” และคำแนะนำสำหรับหุ้นที่มีส่วนกับการประมูลครั้งนี้ GUNKUL (ซื้อ/เป้า 5.70 บาท), BGRIM (ซื้อ/เป้า40.00 บาท), SSP (ซื้อ/เป้า 14.00 บาท), GULF (ซื้อ/เป้า 60.00 บาท)

***ทางด้าน SSP บิ๊กบอสคนเก่ง "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์"  คว้ามาได้ จำนวน 170.5 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 154.5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์   ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้

***ย๊างงงงงง-เรื่องนี้-ยังไม่จบ SSP บอกว่ากำลังศึกษาและเตรียมความพร้อม สำหรับเข้าประมูลการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมตามที่ กกพ.ได้ประกาศออกมา ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ 2,632 เมกะวัตต์ พลังงานลม 1,000 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) 6.5 เมกะวัตต์ และขยะอุตสาหกรรม 30 เมกะวัตต์ คิดเป็นปริมาณรับซื้อเพิ่มเติมรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ เพื่อขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดประเภทอื่นๆ

***SSP เป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีๆ มีอนาคตเติบโตโดดเด่น ที่สำคัญมีผู้บริหารเก่ง-วิชั่นไกลแบบนี้ ..นักลงทุนที่ยังไม่มีของติดเอาไว้ในพอร์ตเสียดายแทนจริงๆ  ปีนี้เค้าส่งสัญญาณมาแล้วเรื่องรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา  ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ และตอนนี้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิด COD แล้ว 236 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในอีก 3 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวทะลุ 500 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

***ฮัลโหล!!!! มองข้าม SUPER ไปได้ไงคะคู๊นนนนนน!!!!  คว้ามามิใช่น้อย 19 โปรเจค  ..เริ่ดดดดดดดดที่สู้ดดดดด!!!!  "จอมทรัพย์ โลจายะ" บิ๊กบอสคนเก่งขวัญใจเจ๊จิ๋มบอกว่า 19 โปรเจคที่ได้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 359.487 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายรวม (PPA)  194.5 เมกะวัตต์

***แยกให้เห็นแบบละเอียดเลย..โครงการที่ SUPER ได้รับการคัดเลือกประเภทเชื้อเพลิง ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอร์รี่ จำนวน 17 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 315.196   เมกะวัตต์  ,พลังงานลม จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 40 เมกะวัตต์ และพลังงานจากขยะอุตสาหกรรม จำนวน 1 โครงการกำลังการผลิตติดตั้ง 4.291 เมกะวัตต์  

***CEO คนเก่งของ SUPER บอกว่าที่สามารถผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้ เนื่องจาก SUPER มีความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารโครงการโรงไฟฟ้า และที่สำคัญกลุ่มบริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะสามารถดำเนินงานตามแผนงานที่เสนอได้ทุกโครงการ ...ทั้งนี้ SUPER ให้ความสำคัญในการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการปีนี้ได้วางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 10,000 -11,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน

***ปิดท้ายวันนี้เจ๊จิ๋มขอแสดงความยินดีกับ บมจ. ริชี่เพลซ 2002 (RICHY) ด้วยค่ะ!!! จากรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) คืนเงินมัดจำในโครงการคอนโดมิเนียมวอร่า ถนนสุขุมวิท 49 มูลค่า 145 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 จนกว่าจะชำระแล้วเสร็จให้กับ RICHY  และคาดว่าการดำเนินการติดตามขอรับเงินมัดจำดังกล่าวคืนจากผู้ขายจะแล้วเสร็จได้ภายในภายในปี 2566 นี้  (มีการเปิดเผยด้วยว่าการชนะคดีดังกล่าวจะทำให้ได้บริษัทฯได้รับเงินคืนมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถบันทึกในงบการเงินได้ภายในปี 2566)