Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 18-12-25 (หมดหวัง!คนละครึ่งพลัสเฟส2)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 18-12-25 (หมดหวัง!คนละครึ่งพลัสเฟส2)
18-12-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ไม่พลิกโผ!!! กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.50% เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที โดยมีการอ้างอิงเหตุผลซัพพอร์ตคือ จากการประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2569 และปี 2570มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากครึ่งแรกของปี 2568 ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอลงตามแนวโน้มรายได้ และภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำตามราคาพลังงานและอาหารสดเป็นสำคัญ ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์มีจำกัดในภาวะที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ ด้านสินเชื่อรวมยังหดตัวและคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเปราะบางยังด้อยลง โดย SMEs ถูกกดดันด้านสภาพคล่องจากทั้งปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อและการแข็งค่าของเงินบาท
***คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ภายใต้เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวชัดเจนและมีความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการทางการเงินและนโยบายอื่นของภาครัฐ จึงเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้
**ส่วนหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยโลกและไทยยังเป็นขาลง กูรูแนะนำ เน้น กลุ่มเช่าซื้อ MTC, SAWAD กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF, BGRIM(Deep Value) กลุ่มHigh Yield เน้น SC, AP
***ส่วนความเห็นอีกมุมมองต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ ระบุว่าแม้จะมีความกังวลเรื่องดอกเบี้ยขาลง แต่ด้วย Valuation ที่ไม่แพงและการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ จึงเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนในภาวะตลาดผันผวน (Safe Haven)
***มีความเห็นเพิ่มเติมจากคนวงการว่า..เมื่อมีการลดดอกเบี้ย 0.25% จนเหลือระดับ 1.25% แล้ว ประเมินว่า กนง.จะเข้าสู่โหมด Wait & See ช่วงสั้นคล้ายกับท่าทีของ Fed ที่ส่งออกมาล่าสุด ก่อนที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% ในช่วงใดช่วงหนึ่งของไตรมาส 2-4 ปีหน้า สู่ระดับ 1.00% ซึ่งน่าจะเป็นปลายทางของดอกเบี้ยไทยในรอบวงจรนี้ หากไม่มี Shock หรือวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจเกิดขึ้น
***ส่วนอีกเรื่องที่ทำให้เจ๊ So Sad!!!! มากกกกกกก ก้อคือความหวังพังทลายลงทันจากเรื่องที่ รมว.คลัง ออกมายอมรับว่า คงไม่สามารถดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 ได้แล้ว หลังจากได้มีการหารือกับกกต. ซึ่งยืนยันว่าไม่น่าจะทำได้ เพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เช่นเดียวกับมาตรการหรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ก็ไม่น่าจะทำได้เช่นกัน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญแล้วคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้
***ในมุมมองของเจ๊ที่เป็นคนนอก..เห็นว่าก้อไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะว่ารัฐบาลรักษาการน่าจะประคองตัว บริหารประเทศโดยไม่ให้มีความเสี่ยงในแง่ของข้อกฎหมายต่างๆ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่ได้กำหนดเอาไว้แล้วในวันที่ 8 ก.พ. 2569
***ส่วนเรื่องในวงการตลาดหุ้นที่เจ๊ให้ความสนใจมากๆ คือ EA มีความเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีนะ!!! จากประเด็นการเดินหน้าปรับโครงสร้างทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่องและยกระดับการบริหารกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
***”วสุ กลมเกลี้ยง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของ EA บอกว่าบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อจัดโครงสร้างเงินทุนในรูปแบบ Project Financing ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐานที่ใช้ในโครงการพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน โดยกำหนดให้สินทรัพย์ของโครงการถือครองโดยบริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของโครงการโดยตรง
***เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างดังกล่าว ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ได้อนุมัติการโอนธุรกิจบางส่วน (Partial Business Transfer: PBT) ไปยังบริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้น 99.99% โดยการดำเนินการนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ กระแสเงินสด หรือการดำเนินงานของบริษัทแม่ในทุกมิติ
***โดยผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 11 รุ่น ได้รับความเห็นชอบในสัดส่วนสูงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อแผนการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัท ...นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA26OA ซึ่งมีกำหนดครบชำระในเดือนตุลาคมปีหน้า ได้อนุมัติการขยายระยะเวลาการชำระคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารตามขั้นตอน ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่อง และความต่อเนื่องทางการเงินของบริษัทในช่วง 1 ปีข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือบริษัทจะไม่มีปัญหาสภาพคล่องอย่างแน่นอน..เมื่อรวมการอนุมัติทั้งหมด ขณะนี้ EA มีหุ้นกู้ ครบ 12 รุ่น ที่ให้ความเห็นชอบต่อแผนการจัดการโครงสร้างหนี้ของบริษัทแล้ว
***NKT มาตัดนัด!!! บิ๊กบอสคนเก่ง “รศ.ญาณเดช ทองสิมา” เปิดเผยว่า โรงพยาบาลนครธน 2 ในเครือโรงพยาบาลนครธน เปิดให้บริการแล้ว บนถนนเอกชัย-กาญจนาภิเษก ประกอบไปด้วยอาคารโรงพยาบาลขนาด 3 ชั้น มีห้องพักผู้ป่วยทั้งประเภทห้องพักรวม และห้องพักเดี่ยว ให้บริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน รวมถึงห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และห้องอภิบาลทารกแรกเกิดภาวะวิกฤต (NICU) มีความพร้อมในการให้บริการผู้ป่วยได้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของผู้ป่วย
*** โรงพยาบาลนครธน 2 ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเข้ารับบริการ อีกทั้งยังมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่พร้อมให้การดูแลรักษาในทุกช่วงวัย ทำให้คนไข้ได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพตามแนวคิดของ “อุ่นใจทุกช่วงวัย ใส่ใจทุกการดูแล” โดยการให้บริการทุกช่วงอายุวัย 1.สุขภาพสตรี 2.สุขภาพเด็ก 3.อายุรกรรมทั่วใป 4.ศัลยกรรม 5.กระดูกและข้อ 6.กายภาพบำบัด 7. อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ในเฟสแรก และจะเปิดให้บริการด้าน จักษุ หัวใจ โสตศอนาสิก สมองและระบบประสาท ในเฟสถัดไปประมาณต้นปีหน้า
***เรื่องนี้ต้องขยาย!!! การเปิดให้บริการโรงพยาบาลนครธน2 ในครั้งนี้ ส่งผลให้รับรู้รายได้เข้ามาทันทีในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมถึงเตรียมยื่นขอเข้าร่วมระบบประกันสังคม ในปี 2570 สะท้อนศักยภาพการขยายฐานรายได้และความแข็งแกร่งของธุรกิจโรงพยาบาลในระยะยาว
***ท่านที่สนใจฟังทางนี้เลยค่ะ!!! เพื่อเป็นการฉลองเปิดโรงพยาบาลใหม่ รับส่วนลดค่าห้องพัก 50% (ถึงวันที่ 31มีนาคม 2569) และสำหรับ ผู้รับบริการ 100 ท่านแรก รับคูปองแทนเงินสด มูลค่า 300 บาท สำหรับชำระค่าบริการหรือรักษาพยาบาลประเภท OPD และ IPD ที่โรงพยาบาลนครธน 2 เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะจากถนนเอกชัยและถนนกาญจนาภิเษก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 898 9999 เพจ เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/nakornthon2 ไลน์บัญชีทางการ @nakornthon2 หรือช่องทางเว็บไซต์ www.nakornthon2.com