Talk of The Town

จับตา สัปดาห์หน้าประชุม ครม. ลุ้นเคาะแพคเกจออมผ่านตลาดทุน โบรกฯ คาดแก้สภาพคล่องที่เหือดแห้ง


04 ธันวาคม 2568

รมว.คลัง เผยประชุมครม.สัปดาห์หน้า เตรียมเสนอแพคเกจกระตุ้นการออมผ่านตลาดทุน ชูโครงการ TISA – กำหนดเพดานลดหย่อนภาษีที่ 8 แสนบาท โบรกฯ มองโทนบวก ช่วยเพิ่มเงินสะสมเข้าสู่ตลาดทุน แก้สภาพคล่องปัจจุบันที่เหือดแห้ง

จับตา สัปดาห์หน้าประชุม ครม._S2T (เว็บ).psd_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ให้มุมมองว่ารัฐบาลเตรียมออกมาตรการชุดใหม่เพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน โดยเฉพาะการออมผ่านตลาดทุน ซึ่งจะประกาศเป็นแพ็กเกจเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าหรือในวันที่ 9 ธ.ค.

โดยเตรียมนำระบบ Individual Saving Account (ISA) มาใช้ ให้ประชาชนทุกคนมีบัญชีออมการลงทุนของตนเอง 1 บัญชี สามารถเลือกลงทุนในตลาดทุนได้โดยตรงตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีโดยตรง

พร้อมกับกระทรวงการคลังจะเสนอ ครม. เห็นชอบการกำหนดเพดานค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 800,000 บาทต่อปี สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ค่าลดหย่อนทุกประเภทรวมกัน ทั้งมาตรการกระตุ้นตลาดทุนของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในส่วนของมาตรการ TISA หรือ Thailand Individual Saving Account ด้วย ก็จะอยู่ภายใต้เพดานดังกล่าว เท่ากับ การออมเพื่อลดหย่อนภาษีในปีจจุบัน วงเงินจะอยู่ที่ 8 แสนบาทต่อคนต่อปีเท่าเดิม แต่จะมีทางเลือกมากขึ้นว่าจากเดิมที่เงินนับรวม 3 ทางเลือก คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับRMF ไม่เกิน 5 แสนบาท และThaiESG 3 แสนบาท จะเปลี่ยนเป็นการจัดสรรลงทุน 4 ทางเลือกใดก็ได้ ในส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, RMF, ThaiESG และ TISA

ส่วนของ TISA จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่แค่ระยะ 5ปี แล้วพิจารณาต่ออายุใหม่ โดย เมื่อมีการลงทุนหุ้นรายตัวในตลาดหุ้นไทย จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อทำตามเงื่อนไขที่กำหนด “ลดหย่อนภาษี”

ทั้งนี้ ประเมินโทนทางบวกต่อโอกาสเกิดความต่อเนื่องเงินลงทุนระยะยาวภายในรอบใหม่ โดยเฉพาะจุดเด่นมาตรการที่มีความถาวร จะเพิ่มเงินสะสมที่เข้าสู่ตลาดหุ้น เพิ่มสภาพคล่องตลาดหุ้นปัจจุบันที่เหือดหาย แต่ระดับบวกต่อตลาดหุ้นไทย ยังต้องติดตามเงื่อนไขการจัดสรรเงินแต่ละส่วนว่าจะมีการกำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติมอย่างไร รวมถึงรายละเอียดแนวทางลงทุนภายใต้โครงการ TISA

SET