Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 3-12-25 (ลุ้นรอบหน้า! SAWAD, ITC ติด SET50 ส่วน PTG, GFPT,STECON ติด SET100)


03 ธันวาคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 3-12-25

(ลุ้นรอบหน้า!SAWAD, ITC ติด SET50

PTG, GFPT,STECON ติด SET100)

 

3-12-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิมwww.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***มีการประเมินโดยกูรูหุ้นว่าได้ทำการคำนวณตัวหุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้า/ถอดออกจากดัชนี SET50และ SET100 ประจำรอบ 1H26  โดยใช้ข้อมูลจนถึงวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นชุดข้อมูลเดียวกันกับที่ ตลท.ใช้ในการประเมินรอบนี้ในเบื้องต้นได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้

1) หุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้แก่ SAWAD, ITC

2) หุ้นที่คาดว่าจะถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ BCP, VGI

3) หุ้นที่ คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET100 ได้แก่ PTG, GFPT,STECON

4) หุ้นที่คาดว่าจะถูกถอดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ MBK, WHAUP,SISB

***มีคำแนะนำในเชิงกลยุทธ์คือ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น SAWAD และ ITC บนความคาดหวังการเข้าสู่ดัชนี SET50 ดังกล่าว โดยนอกเหนือจากธีมนี้แล้ว หุ้นทั้ง 2 ยังมีปัจจัยอื่นสนับสนุนอยู่ด้วย โดย SAWAD มีธีมเรื่องของ Rate cut cycle ในประเทศที่ยังคงคาดเช่นเดิมว่าหาก Fed มีการลดดอกเบี้ยนโยบายในเดือนธันวาฯนี้  มีโอกาสที่ ธปท.จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงตามได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่เศรษฐกิจภายในประเทศต้องการตัวช่วยทางด้านนโยบายมาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นไม่นับรวมกับขีดจำกัดทางด้านนโยบายการคลังที่อยู่ต่ำเป็นทุนเดิม

***ส่วนทางด้าน ITC ในฐานะหุ้นส่งออก มีปัจจัยเรื่องภาษี Tariff ของ “ทรัมป์” ที่สุดท้ายอาจถูกศาลสูงของสหรัฐฯ พิจารณาว่าเป็กฎหมายที่ไม่เห็นชอบด้วยอำนาจจนอาจถูกสั่งให้เป็นโมฆะ ในช่วงถัดไป หากเกิดขึ้น จะถือเป็น Upside risk ต่อหุ้นกลุ่มส่งออกซึ่งรวมถึง ITC ด้วยเช่นกัน

***ส่วนในฝั่งของดัชนี SET100 นั้น แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้น PTG ที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนีในรอบนี้ ประกอบกับยังมีปัจจัยเชิงบวกจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนวอลุ่มยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีได้

***นอกจากนี้ กูรูหุ้นได้จัดทำคาดการณ์หุ้นเข้า-ออกสำหรับดัชนี SETHD ประจำรอบ 1H2 ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากมองว่า Universe ของหุ้นในดัชนีนี้เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ของนักลงทุนสถาบันในประเทศ

1) หุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SETHD ได้แก่ AEONTS, AMATA

2) หุ้นที่คาดว่าจะถูกถอดออกจากดัชนี SETHD ได้แก่ WHAUP, COM7

***เรื่องราวของการเยียวยาน้ำท่วม ยังเป็นที่สนใจและติดตามกันต่อเนื่อง ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบการออกมาตรการฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม โดยมี 3 มาตรการเยียวยาน้ำท่วมหนักภาคใต้ เริ่มจ่ายเยียวยาน้ำท่วม ครัวเรือนละ 9,000 บาท พร้อมอัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 3 ด้าน ดังนี้

1.โครงการพักเงินต้น ดอกเบี้ย ให้กับผู้ประสบภัยภาคใต้ วงเงินไม่เกิน1 ล้านบาท พักต้นพักดอกไม่เกิน 1 ปี
2.โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย ให้สามารถกู้เงินได้100,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี ระยะสัญญา 3 ปี เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูอาชีพ
3.สินเชื่อเพื่อการซ่อมแซม ที่อยู่อาศัย กู้ได้100,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี อายุสัญญา 3 ปี

***นอกจากนี้ยังมีมาตรการเยียวยาผู้เสียชีวิต ..กรณีเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต รายละ 2 ล้านบาท ครม. อนุมัติครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดสงขลาเท่านั้น ส่วนจังหวัดอื่นจะหารือเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

***เซียนหุ้นได้ทำการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการเยียวยา เรียงลำดับจากมากไปน้อยได้แก่

- กลุ่ม Home Improvement ได้แก่ HMPRO , DOHOME, GLOBAL จากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด รวมถึงการซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ โดยหุ้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวเร็วสุดทุกครั้งหลังเกิดอุทกภัย

- กลุ่ม Commerce: CPAXT  , BJC (NR), KK (NR)คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจาก Big C, Makro และ Lotus’s มีสาขาในพื้นที่หาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งนี้ Makro 2 สาขา, Lotus hypermarket 2 สาขา Lotus Go fresh 6 สาขา, สำหรับ KK มีสาขาที่ภาคใต้ 36 สาขาในจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล ทั้งนี้คาดว่าหลังน้ำท่วมส่งผลให้ความต้องการสินค้า food และ non-food เพิ่มขึ้น ทั้งเพื่อการทำความสะอาด ซ่อมแซม ฟื้นฟูพื้นที่และการรีสต็อกอาหารสด–แช่แข็งหลังน้ำลด ซึ่งล้วนหนุนยอดขายและอัตรากำไรของCPAXT, BJC, KK

- NEO มองว่าหลังสถานการณ์น้ำลด จะได้ประโยชน์จากเงินสนับสนุนภาครัฐ โดยผู้บริโภคจะต้องซื้อสินค้าอุปโภคในครัวเรือนใหม่ โดย NEO มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าอุปโภค 100% ของรายได้รวม และสัดส่วนรายได้จากภาคใต้ประมาณ 8-9% ของรายได้รวม และ คาดกำไรในไตรมาส 4 นี้ จะฟื้นตัว QoQ จากรายได้ในประเทศขยายตัว อีกทั้งรายได้ส่งออกฟื้นตัวและสัดส่วน SG&A/Sales ที่ลดลง แต่กำไรยังชะลอตัว YoY จากต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง

***ส่วนเซียนหุ้นอีกสำนักประเมินว่า มาตรการช่วยเหลือจะเป็นบวกต่อกลุ่มเช่าซื้อมากสุด โดยเฉพาะมาตรการพักหนี้ มอง MTC, SAWAD ตัวเลือก รองมาคือ หุ้นธนาคาร KTB, KBANK ลดความกังวลต่อความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ นอกจากนี้ ส่งผลบวกต่อกลุ่มจะได้ประโยชน์จากการเร่งซ่อมแซ่มจากเม็ดเงินช่วยเหลือของรัฐฯอาทิGLOBAL, TOA, SCC และท่องเที่ยวจากภาพสถานการณ์ฟื้นฟูสู่ปกติ อาทิ AOT, CENTEL