รายงานพิเศษ : TACC ผลงานเติบโตสดใส ไตรมาส 4 ช่วงไฮซีซั่น โบรกเกอร์แห่ปรับเพิ่มกำไร
บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) ผลงานปีนี้ ยังเติบโตอย่างสดใส โดยในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีชั่น หนุนโบรกเกอร์ปรับเพิ่มกำไร
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์สถานการณ์ บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) โดยระบุแนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/68 ผู้บริหารยังคงมองว่า ไตรมาสดังกล่าวจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิมีโอกาสทำสถิติสูงสุดได้ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองที่ระมัดระวังในประเด็นดังกล่าวเนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกมาก รวมถึงอากาศที่เย็นในช่วงเดือน ธ.ค. อาจจะมากดดันการขายได้แม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น
สำหรับปี 26 ในแง่ธุรกิจที่ขายให้กับ 7-11 ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ในส่วนของกาแฟพันธุ์ไทยคาดจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตได้อีกมาก เพราะมีการขยายสาขาที่มากกว่าทาง 7-11 สิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มเติม คือการเพิ่มสินค้าใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับกลุ่มเครื่องดื่ม ซึ่งผู้บริหารแจ้งว่าเพื่อเป็นการขยายฐานรายได้ให้มากขึ้น และลดการพึ่งพิง 7-11 ลง
โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยเรายังคงมีมุมมองที่ดีกับ TACC เช่นเดิมจากการเติบโตที่ยังมีต่อเนื่องทั้งร้าน 7-11 และกาแฟพันธ์ไทย โดยเรามีการปรับกำไรในปี 25-26 ขึ้นจากเดิมหลังผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 ออกมาดี โดยเราปรับขึ้น 11% และ 9% ตามลำดับมาอยู่ที่ 330 ล้านบาทและ 341 ล้านบาท รวมกับการจ่ายเงินปันผลที่คาดว่าทั้งปีจะจ่าย 0.51 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 10% ดังนั้นจากปัจจัยบวกข้างต้นเราจึงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 6.7 บาท (12XPER’26E)
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด GLOBLEX คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ราว 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67%จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน โดยยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ และเติบโตแรง จากปีก่อน จากเหตุผล 2 ประการ คือ
1) เติบโตจากฐานต่ำ เพราะครึ่งหลังปี 67 เป็นช่วงเริ่มต้นที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก โดยเฉพาะราคากาแฟมีการปรับตัวขึ้นแรง และบริษัทยังไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
2) รายได้หลักยังคงเติบโตดีจากทั้งกลุ่ม 7-Eleven และ Non 7-Eleven โดยเฉพาะร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีแผนการเร่งขยายสาขาใหม่ ประกอบกับเครื่องดื่มชาไทย ชาเขียว และมัทฉะ ยังคงได้กระแสตอบรับดีต่อเนื่อง นอกจากนี้เครื่องดื่มโถกดเย็น รสชาติอเมริกาโน่ (7-Eleven) ที่ขายดีมากในช่วงไตรมาส 3/68 ยังคงนำมาวางจำหน่าย ต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/68 ทั้งนี้ เราปรับประมาณการกำไรปี 68 เพิ่มขึ้น 10% แตะที่ 337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%จากปีก่อน
ขณะเดียวกันนายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร TACC ระบุ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะสดใสต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) และกลุ่ม B2C (Non 7-Eleven) โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมถึงออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner เช่น เครื่องดื่มเย็นในโถกด (7-Select)
พร้อมผลักดันการใช้แนวคิด ESG เป็นแนวคิดสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการงานภายในทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และมั่นใจว่าจะสนับสนุนรายได้ปี 2568 เติบโตตามเป้าหมาย