Talk of The Town
WASH ทำนักลงทุนเจ็บหนัก! เปิดเทรดวันแรกเทกระจาด! ดิ่ง 18% โบรกฯ ชี้ ราคา IPO ไม่มีอัพไซด์แล้ว
03 พฤศจิกายน 2568
บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้เป็นวันแรก (3 พฤศจิกายน 2568) โดยทำราคาเปิดการซื้อขาย 6.10 บาท ลดลง 18% จากราคา IPO ที่ระดับ 7.50 บาทต่อหุ้น

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุรกิจซักผ้าแบบครบวงจร ตั้งแต่บริการซักอบพับ หรือบริการรับรีด ซึ่งเข้ากับยุคสมัยและพัคนที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บริษัทมีสาขาร้านสะดวกชัก WashXpress ครอบคลุม 21 จังหวัดในประเทศไทย
โดยมีลักษณะการกระจายตัวของสาขาแบบเป็นกลุ่ม (Cluster expansion) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงเมืองรองรอง และจังหวัดใหญ่ โดยบริษัทฯ ยังมีศักยภาพและช่องว่างในการเติบโตในอนาคต
สำหรับแนวโน้มรายได้ปี 2568 คาดเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยรายได้และกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโตมากกว่ารายได้และกำไรสุทธิของช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาจำนวนไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569 – 2570
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่สำคัญ ประกอบด้วย ความเสี่ยงจากภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความเสี่ยงจากการไม่สามารถต่ออายุสัญญาเช่าพื้นที่ของสาขาเดิมได้ ความเสี่ยงจากการลงทุนขยายสาขาไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และความเสี่ยงเกี่ยวกับความคุ้มครองของเครื่องหมายการค้า
ดังนั้นจากการประเมินมูลค่าเบื้องต้นด้วย PER ของดัชนี SET กลุ่ม SERVICE ที่ 21 เท่า เท่า เนื่องจากรูปแบบธุรกิจไม่มีคู่แข่งที่จดทะเบียนในตลาดอย่างชัดเจน โดยมองว่ามูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 2569 ของบริษัทนั้นยังไม่มี upside จากราคา IPO
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า WASH ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรภายใต้แบรนด์ “WashXpress” ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงสิบปี ด้วยจำนวนสาขากว่า 548 แห่ง ครอบคลุม 21 จังหวัดทั่วประเทศ จุดแข็งของโมเดลธุรกิจคือการสร้างรายได้แบบ Recurring income จากบริการที่เป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เงินที่ได้จาก IPO จะนำไปขยายและปรับปรุงสาขา บริษัทตั้งเป้าขยาย 80 สาขาต่อปีในช่วงปี 2568-70
ดังนั้นทำให้คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 31% (CAGR) ประเมินมูลค่าเหมาะสม 9.30 บาท อิง P/E 20 เท่า มี premium กว่ากลุ่มจากการเติบโตสูง (บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายฯ)

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุรกิจซักผ้าแบบครบวงจร ตั้งแต่บริการซักอบพับ หรือบริการรับรีด ซึ่งเข้ากับยุคสมัยและพัคนที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บริษัทมีสาขาร้านสะดวกชัก WashXpress ครอบคลุม 21 จังหวัดในประเทศไทย
โดยมีลักษณะการกระจายตัวของสาขาแบบเป็นกลุ่ม (Cluster expansion) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงเมืองรองรอง และจังหวัดใหญ่ โดยบริษัทฯ ยังมีศักยภาพและช่องว่างในการเติบโตในอนาคต
สำหรับแนวโน้มรายได้ปี 2568 คาดเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยรายได้และกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโตมากกว่ารายได้และกำไรสุทธิของช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาจำนวนไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569 – 2570
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่สำคัญ ประกอบด้วย ความเสี่ยงจากภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความเสี่ยงจากการไม่สามารถต่ออายุสัญญาเช่าพื้นที่ของสาขาเดิมได้ ความเสี่ยงจากการลงทุนขยายสาขาไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และความเสี่ยงเกี่ยวกับความคุ้มครองของเครื่องหมายการค้า
ดังนั้นจากการประเมินมูลค่าเบื้องต้นด้วย PER ของดัชนี SET กลุ่ม SERVICE ที่ 21 เท่า เท่า เนื่องจากรูปแบบธุรกิจไม่มีคู่แข่งที่จดทะเบียนในตลาดอย่างชัดเจน โดยมองว่ามูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 2569 ของบริษัทนั้นยังไม่มี upside จากราคา IPO
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า WASH ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรภายใต้แบรนด์ “WashXpress” ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงสิบปี ด้วยจำนวนสาขากว่า 548 แห่ง ครอบคลุม 21 จังหวัดทั่วประเทศ จุดแข็งของโมเดลธุรกิจคือการสร้างรายได้แบบ Recurring income จากบริการที่เป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เงินที่ได้จาก IPO จะนำไปขยายและปรับปรุงสาขา บริษัทตั้งเป้าขยาย 80 สาขาต่อปีในช่วงปี 2568-70
ดังนั้นทำให้คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 31% (CAGR) ประเมินมูลค่าเหมาะสม 9.30 บาท อิง P/E 20 เท่า มี premium กว่ากลุ่มจากการเติบโตสูง (บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายฯ)
ยอดนิยม
GULF ลั่นกรณี KBANK ซื้อหุ้นคืน จำกัดสิทธิ "ซื้อขายหุ้น" ของบริษัทไม่ได้ แม้ KBANK ร่อนหนังสือวอนห้ามจำหน่าย
“พงษ์ศักดิ์” ทุ่ม 3.5 พันลบ. เทนเดอร์ SVI หุ้นละ 7.50 บาท ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
“เซียนมี่” รับทรัพย์ 146 ลบ. หลัง “พงศ์ศักดิ์” ทำเทรนเดอร์ หุ้น SVI ที่ราคา 7.50 บาท
โบรกฯ คาด IRPC พลิกมีกำไร ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังสต๊อกน้ำมันเป็นบวก-GIM พุ่ง