Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 27-10-25 (AAV ถ้าเปลี่ยนเจ้าของ..จะเป็นไงต่อ!!!)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 27-10-25 (AAV ถ้าเปลี่ยนเจ้าของ..จะเป็นไงต่อ!!!)
27-10-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ศุกร์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 47,207.12 จุด เพิ่มขึ้น 472.51 จุด หรือ +1.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,791.69จุด เพิ่มขึ้น 53.25 จุด หรือ +0.79% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,204.87 จุด เพิ่มขึ้น 263.07 จุด หรือ +1.15%
***รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (24ต.ค.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนด้วย
***ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนก.ย. แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลว่าภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ และยืนยันแนวโน้มที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังสิ้นสุดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า ทางด้านนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ข่าวดีเกี่ยวกับเงินเฟ้อจากข้อมูล CPI ที่ชะลอตัวได้เปิดโอกาสให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าและอาจจะลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.
***ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (27-31 ต.ค. 68) กูรูประเมิน SET INDEX มีแนวรับที่ 1,300 และ 1,295 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,320 และ 1,350 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (28-29ต.ค.) ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 3/2568ของบจ.ไทย สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม BOJ และ ECB ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนต.ค. ของจีน
***วันนี้จะมีหุ้นไอพีโอน้องใหม่ชื่อว่า MASTEC เข้าทำการซื้อขายเป็นวันแรก ชื่อเต็มๆ คือ บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ ทำธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ 1) ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล 2) ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย 3) ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมด้วยการให้คำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่นและให้บริการด้านวิศวกรรม
***จะเข้าเทรดใน SET หมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 79,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ราคาหุ้นละ 1.45 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.45 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 9.06 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1ก.ค. 2567 ถึง 30 มิ.ย. 2568
***ขอให้นักลงทุนทุกท่านมีความสุขกับน้องใหม่ MASTEC ได้เงินเต็มกระเป๋ากลับบ้านนะ!! เพราะสถานการณ์ทุกอย่างรอบด้านดีหมด เฮงๆ รวยๆๆๆๆๆ นะคะ
***แต่เรื่องราวที่เจ๊สนใจตอนนี้กลับเป็นเรื่องของ AAV ที่มีข่าวว่าจะโดนทำ Tender Offer ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการที่ AirAsia X Berhad ได้มีการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ AAV ต่อทาง ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย โดย(สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์ต่อไปนี้ https://www.bursamalaysia.com/market_information/announcements/company_announcement/announcement_details?ann_id=3600147)
***เรื่องนี้เป็นดีลที่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย..เป็นเรื่องราวของบริษัทแม่ที่ทำกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!!! เมื่อมีการเปลี่ยนมือเป็นเจ้าของรายใหม่..ลูกอย่าง AAV ที่อยู่ในไทย ก้อเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีผลกระทบเกิดขึ้น
***ส่วนข้อมูลที่ AAV แจ้งมายัง SET ตอบแบบกลางๆ ว่า ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลหรือการติดต่อใด ๆ จากผู้มีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยทันที หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว และจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานกำกับดูแล รวมทั้งดำเนินการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
***ปิดท้ายวกับ ATLAS ศุกร์ที่ผ่านมา ได้แจ้งผ่าน SET เพื่อให้สาธารณะชน รับทราบโดยทั่วกันและชัดเจนว่า PTG ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (Strategic Shareholders) อยู่ภายใต้เงื่อนไข Silent period ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีการฝากหลักทรัพย์ไว้กับ TSD คิดเป็นสัดส่วนอัตราร้อยละ 55 สำหรับหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของ PTG ได้มีการทำสัญญา Lock-up ระยะเวลา 1 ปี กับ บล.เคจีไอ ซึ่งสะท้อนถึง ความเชื่อมั่นอย่างมั่นคงของ PTG ต่อศักยภาพและการเติบโตของบริษัทฯ
***ATLAS มีโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง ด้วยแนวคิด “Creative Energy Retail” มุ่งใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับสินค้าและบริการ ผสานกับระบบบริหารแบบ COCO (Company Owned Company Operated) ซึ่งช่วยในการควบคุมคุณภาพ อันได้แก่ การอัดบรรจุ การจัดจำหน่าย และบริการหลังการขาย ท าให้เกิด “Power of Network” ที่แข็งแกร่ง อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจาก Ecosystem ของกลุ่ม PTG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทางธุรกิจที่ต่อยอดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายธุรกิจ LPGครบวงจรทั่วประเทศ ทั้งภาคครัวเรือนผ่านโรงบรรจุก๊าซ ร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มและการเพิ่มจำนวนถังก๊าซหุงต้ม รวมถึงภาคขนส่งผ่านโครงการ “PT Auto Transform” ส่งเสริมการใช้ก๊าซ LPG ในยานยนต์ ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม อีกทั้ง ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจจำหน่าย LPG และอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตได้ในอนาคต