CPF บอร์ดไฟเขียว ซื้อหุ้นคืนงบ 8 พันลบ. โบรกฯมองปิดความเสี่ยงราคาหุ้นขาลง

CPF บอร์ดไฟเขียว อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนกว่า 8 พันล้านบาท เริ่ม 8 ต.ค. 68 ถึง 7 เม.ย. 69 ด้านโบรกฯ มองช่วยลดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น หลังมีแรงกดดันราคาหมูปรับตัวลง

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่าในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2568 วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติโครงการการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น (Shareholder returns) โดยการบริหารทางการเงินให้เกิดประสิทธิผลในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท จํานวน 350 ล้านหุ้น

โดยวิธีการและกําหนดเวลาในการซื้อหุ้นคืน จะซื้อด้วยวิธิจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์กําหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2569 หรือบริษัทต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6เดือน

สำหรับผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืนต่อผู้ถือหุ้น จะเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นจากการลดลงของจํานวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะทําให้กําไรต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ดีขึ้น รวมทั้งผู้ถือหุ้นยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลต่อหุ้นที่สูงขึ้น

ส่วนต่อบริษัทนั้น จะสามารถบริหารโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากบริษัทดําเนินการซื้อหุ้นคืนได้ครบตามวงเงินที่ได้ระบุได้ทั้งหมด เมื่อสิ้นสุดโครงการการซื้อหุ้นคืน มูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็จะลดลงเป็นจํานวนเท่ากับวงเงินดังกล่าว

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่าการที่ CPF ประกาศเพิ่มวงเงินซื้อหุ้นคืนจะช่วยป้องกันความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น ซึ่งจะช่วยรองรับแรงกดดันระยะสั้นจากราคาหมูในประเทศที่ลดลงมาอยู่ที่ 52-54 บาท/กิโลกรัม ณ ปัจจุบัน (ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าต้นทุนผู้ประกอบการรายใหญ่) โดยหาก CPF มีการซื้อหุ้นคืนทั้งหมด 8 พันล้านบาท ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมี net IBD/E เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.65 เท่า (จากเดิม 1.62 เท่า)