Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-09-25 (หุ้นไม่หลุด 1280 จุด..ยังมีโอกาสแกว่งขึ้นรอบใหม่)


23 กันยายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-09-25 (หุ้นไม่หลุด 1280 จุด..ยังมีโอกาสแกว่งขึ้นรอบใหม่)

 

23-09-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทย SET INDEX ปิดที่ 1,282.54 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.79%) มูลค่าซื้อขาย 31,595.35 ล้านบาท

*** มุมมองของกูรูหุ้นเห็นว่าการที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลง เพราะไม่มีปัจจัยใหม่หนุนให้ฟื้นตัว หลังขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ทั้งจากการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และปัจจัยการเมืองในประเทศชัดเจนขึ้น ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา ขณะที่มองในเชิง Valuation ดัชนี SET ขึ้นไประดับ 1,300 จุด ส่งผลให้ P/E เริ่มสูงมาที่ 13.7-13.8 เท่า แพงเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาค ขณะที่ GDP ไทยเติบโตต่ำที่สุดในภูมิภาค ทำให้ความน่าสนใจลดลง1280 ยังมีโอกาสแกว่งขึ้นรอบใหม่

***แต่ในมุมของเทคนิเคิล กูรูหุ้นบอกว่าแม้ SET INDEX ระยะสั้น ตลาดหุ้นไทยมีการพักฐานจากแรงขายทำกำไรและปิดต่ำกว่า 1300 อย่างไรก็ตาม ถ้าการอ่อนตัวไม่ต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ที่ 1280 ก็ยังมีโอกาสแกว่งขึ้นรอบใหม่  ทั้งนี้ได้ให้แนวรับไว้ที่ 1290, 1285-1280 ถ้าหลุด 1280 จะมีโอกาสลงไปที่ 1260, 1250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1300, 1315-1320

***ส่วนเรื่องครม.ใหม่ มีรายงานข่าวว่าจะถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เวลาประมาณ 18:00 น. และจะมีประชุมครม.นัดพิเศษทันที เพื่อพิจารณา “ร่างนโยบายรัฐบาล” ที่จะส่งต่อให้รัฐสภา หลังจากนั้นครม.จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งมีกำหนดภายใน 15 วันหลังถวายสัตย์ ((ตามกระแสข่าวคาดว่าจะแถลงนโยบายรัฐบาล 29 ก.ย.– 1 ต.ค.นี้) และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว คณะรัฐมนตรีทุกคนจะสามารถทำงานตามภาระกิจได้

***สำหรับนโยบายที่มีกระแสออกมาเพิ่มเติม จากในส่วนมาตรการกระตุ้นบริโภค อาทิ คนละครึ่ง เติมเงินกองทุนหมู่บ้าน รวมถึง Easy E-Receipt และท่องเที่ยว อาทิ ทัวร์ไทยคนละครึ่ง มีข้อมูลเพิ่มเติมจากความเห็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดังนี้

***มาตรการคนละครึ่ง จะจัดสรรให้อย่างทั่วถึง อาทิ กรณีผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ แล้ว มีแนวทางเบื้องต้นว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับสิทธิในลักษณะ Top Up เช่น หากบัตรสวัสดิการให้สิทธิ 300 บาท รัฐบาลจะเติมให้อีก 700 บาท รวมเป็น 1,000 บาท เพื่อไม่ให้น้อยกว่าประชาชนทั่วไป ส่วนประชาชนทั่วไปอาจจะได้สิทธิ์ 1,000 บาท ขณะที่ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีอาจให้สิทธิ์มากกว่าที่ 1,200 บาท

เรื่องนี้กูรูระบุว่าโดยรวมยังไม่แตกต่างไปข้อมูลเดิมที่ตลาดรับรู้ช่วงก่อนหน้า แต่ชัดเจนขึ้นว่าผลบวกดีกับหุ้นที่มีสาขาครอบคลุมและผู้ที่จำหน่ายสินค้าจำเป็น อาทิ CPALL (บวกทางตรงจาการถือหุ้น CPAXT และทางอ้อมจากการมีสาขาครอบคลุมดีจากกำลังซื้อภาพรวม), CPAXT, BJC เป็นต้น

***คาดจะเลื่อนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ต้องถูกเลื่อนจัดเก็บเต็มอัตราออกไปจิตวิทยาบวกต่อหุ้นอสังหาฯ ที่ภาระดังกล่าวลดความกังวลกับการซื้ออสังหาฯใหม่ ระยะสั้นเน้น AP, SPALI และหุ้นอิงกำลังซื้อภายใน หุ้นเด่นที่น่าสนใจคือ CPALL, CPAXT, BJC

-นอกจากนี้ รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการ “โซลาร์ชุมชน” ภายใน 4 เดือน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชนรวมกว่า 1,500 เมกะวัตต์ในระยะเริ่มต้น คาดว่าจะส่งผลบวกต่อ GULF, GUNKUL

***ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เจ๊เห็นว่าน่าสนใจและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้คือ การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ประกาศแผนการที่จะเริ่มลดการถือครองกองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) มูลค่ากว่า 79.5 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการยุติทศวรรษของนโยบายการเงินแบบนอกกรอบที่ใช้เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืด

***ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้มีลุ้นเรื่องตลาดหุ้นไทยเรา น่าจะได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่คาดว่าจะไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น หลังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์ก่อนหน้า  แต่ภาพรวมคาดว่าตลาดหุ้นจะยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันจากความผันผวนภายนอก โดยเฉพาะแผนการเริ่มลดการถือครองกองทุน ETF ของ BOJ และการจับตาผลการดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ของไทย

***สู้ๆ นะทุกคน..เจ๊เอาใจช่วย!!!