Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 10-09-25 (คนละครึ่งน่าจะได้ใช้ต.ค.นี้ ส่งผลดีต่อหุ้นหลายกลุ่ม)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 10-09-25 (คนละครึ่งน่าจะได้ใช้ต.ค.นี้ ส่งผลดีต่อหุ้นหลายกลุ่ม)
10-09-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เรียบร้อยไปอีกหนึ่งคดี..ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดี หมายเลขดำที่ บค 1/2568 กรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่า การบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยศาลฯ มีคำสั่งให้กลับไปจำคุกที่เรือนจำ 1 ปี โดยมีมติเอกฉันท์ 5-0
***ฟากฝั่งของรัฐบาลชุดใหม่ถือว่าผ่านช่วงรอยต่อราบรื่น และน่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามที่นัดหมายเอาไว้!!! ประเมินว่าครม. ใหม่น่าจะรับตำแหน่งทัน ก่อนปีงบประมาณ 2569 (สิ้นสุด ก.ย. 69) จะเริ่มมีผล 1 ต.ค. ทำให้รอยต่อการเมืองไม่กระทบเศรษฐกิจ
***นอกจากนี้ รัฐบาลที่มีเสียงส่วนน้อย เมื่อบวกเข้ากับข้อตกลงยุบสภาภายใน 4 เดือนที่มีกับพรรคประชาชน ทำให้ระยะกลางตลาดยังมีความหวังเชิงบวกต่อภาพการเข้าสู่จุด Refresh ใหม่ =รัฐบาลใหม่ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
***แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่คาดนโยบายพรรคภูมิใจไทยยังน่าจะขับเคลื่อนระดับหนึ่ง ทำให้ชุดหุ้นที่ตลาดมีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไร คือกลุ่มที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากนโยบายหลักของพรรค (ย้อนกลับไปอ่านข้อมูลของเจ๊เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ค่ะ..เขียนบอกรายละเอียดหุ้นรายตัวที่คาดว่าจะได้ประโยชน์เอาไว้แล้ว)
***ตอนนี้มีสามเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เริ่มที่การให้ข้อมูลจากปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดที่จะนำโครงการคนละครึ่งมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หากรัฐบาลอนุมัติ เริ่มได้เร็ว ต.ค. 68 งบประมาณมีรองรับ 25,000 ล้านบาท และระบบพร้อมใช้ผ่านแอปเป๋าตัง คาดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 5 หมื่นล้านบาท หรือราว 0.3%ของ GDP ไทย(รัฐบาล และประชาชนฝั่งละ 2.5 หมื่นล้านบาท)
***แต่ก้อต้องติดตามเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งน่าจะช่วยให้เห็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงชัดเจนขึ้น มีการวิเคราะห์ออกมาให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นคือ
- หากมาตรการดังกล่าวมีเงื่อนไขคล้ายกับในอดีต คาดเม็ดเงินที่เข้าในระบบเศรษฐกิจบวกต่อกลุ่ม Domestic หุ้นอิงกำลังซื้อภายใน หลักๆ คือ กลุ่มค้าปลีก อาทิ TNP (รับประโยชน์โดยตรง เป็นร้านค้าท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการในครั้งก่อน) CPAXT (ขายสินค้าให้ร้านค้าท้องถิ่นอีกทอด), กลุ่มที่มีสินค้าจำหน่ายในร้านค้าท้องถิ่น อาทิ เครื่องดื่ม (CBG, OSP, ICHI) ขนม (TKN,CHAO) น้ำมันถั่วเหลือง (TVO) สินค้าอุปโภค (NEO) กลุ่มที่จำหน่ายวัตถุดิบให้ร้านอาหาร KCG ฯลฯ
-กลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม อาทิ กลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, GLOBAL, DOHOME กลุ่มร้านอาหาร หนุนจากกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงขึ้น หุ้นแนะนำคือ MAGURO, M กลุ่มท่องเที่ยวที่มีฐานธุรกิจในประเทศสูงๆ อาทิ ERW CENTEL
***อีกเรื่องคือ กสทช. เปิดเผยว่า กำลังเสนอต่อ บอร์ด กสทช. เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ใช้งาน คลื่น 4800 MHz ที่มีอยู่ประมาณ 100 MHz โดยจะเปิดโอกาสให้ กลุ่มอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมโรงงาน ท่าเรือ หรือแม้แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.) ยื่นขออนุญาตใช้งานได้ โดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการประมูล เพียงชำระค่าธรรมเนียมรายปีหลักพันถึงหมื่นบาท ภายใต้เงื่อนไข ห้ามนำไปหารายได้เชิงพาณิชย์
กูรูหุ้นประเมินว่าส่งผลทางจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์ อาทิ
-สื่อสาร จากโอกาสนำความเชี่ยวชาญไปต่อยอดธุรกิจให้กับลูกค้าองค์กร ADVANC,TRUE
-นิคม เพิ่มศักยภารแข่งขันกับต่างประเทศ WHA, AMATA
-ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม ที่ช่วยให้มีเครื่องไม้เครื่องมือยกระดับประสิทธิภาพ CPF,SCC, PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, KCE, HANA, DELTA
-กลุ่มที่ช่วยนำทรัพยากรคลื่นไปต่อยอดสร้าง Solutions เพิ่มประสิทธิภาพ BBIK
-กลุ่มที่อยู่เบื้องต้นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล INSET, GULF (ตั้งรับ), GPSC
***เรื่องที่สามสืบเนื่องจากที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติเอกฉันท์ 155 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … ประเมินความคืบหน้าดังกล่าวเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นรถไฟฟ้า BTS,BEM หุ้นอสังหา AP, SIRI, SPALI และหุ้นค้าปลีก (ค่าครองชีพลดลง) CPALL, CPAXT, BJC
***มีอีกมุมมองที่น่าสนใจ คือ คนนอกที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญใน ครม. โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆ ต่อเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน อิงความรู้ ความเชี่ยวชาญ เชื่อว่าน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อให้กับตลาดได้
***ยกตัวอย่างจาก กระทรวงพาณิชย์มีรายงานข่าวว่า รมว.พาณิชย์ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท IBM ในประเทศไทย และต่อมาขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของแผนกบริการเทคโนโลยีระดับโลกของ IBM ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ THCOM และ DUSIT ในปัจจุบัน
***กูรูหุ้นมองเรื่อง รมว.พาณิชย์ว่าเป็นเรื่องบวกต่อการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนนอกที่มีความรู้+ประสบการณ์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 4 เดือนที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงรอยต่อ โดยฝั่งคุณศุภจี การเป็นอดีตผู้บริหาร บ.เอกชนชั้นนำ ที่มี
ประสบการณ์และความสามารถเป็นที่ยอมรับจากต่างชาติ ผสาน ประสบการณ์ในธุรกิจเทคโนโลยี+ภาคบริการและคาดว่าความเชื่อมั่นต่างประเทศที่มีบุคคลที่ได้รับการยอมรับ คาดสามารถสร้างความเชื่อมั่นการค้าภายใน(บวกกลุ่มภาคบริการ ค้าปลีก ท่องเที่ยว ร.พ.) รวมถึงการค้าระหว่างประเทศ (อาหาร, ชิ้นส่วนฯ) รวมถึงโอกาสบรรลุข้อตกลง FTA ส่งเสริมการค้าลดผลกระทบภาษีสหรัฐฯ รวมถึงและดึงเม็ดเงินลงทุนทางตรงเพิ่มเติม โดยคาดประสบการณ์เทคโนโลยีที่จะช่วยเกิดภาพ New S Curve อุตสาหกรรมใหม่ๆของไทย อาทิ Infra Tech, Semi-conductor