รายงานพิเศษ : TACC แนวโน้มธุรกิจสดใส เดินหน้าพัฒนาสินค้ากับ 7-Eleven โบรกฯ คาดปี 68 โกยกำไร 297 ลบ.พุ่ง 20%
บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) มั่นใจธุรกิจครึ่งหลังปี 68 เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกับ 7-Eleven ทั้งในกลุ่ม Core Menu และ New Menu พร้อมขยายฐานลูกค้า B2B-B2C หาโอกาสทางธุรกิจผ่าน M&A และ JV ควบคู่การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจดันรายได้ปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท
สถานการณ์การบริโภคในประเทศที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น หนุนยอดขายสินค้าของ บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) สะท้อนจากผลงานในช่วงที่ผ่านมาที่ยังเติบโตสดใสกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดย นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร มั่นใจทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างสดใสต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ทั้งในส่วนธุรกิจ B2B (7-Eleven) และ B2C (Non 7-Eleven)
โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าในกลุ่ม Core Menu และ New Menu ร่วมกับพันธมิตร 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (7-Select) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Cafe
นอกจากนี้ TACC ยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และผลักดันการใช้แนวคิด ESG เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ร่วมกับการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะสนับสนุนรายได้รวมปี 2568 ทะลุ 2,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10% ตามแผน
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการรไตรมาส 2/2568 ของ TACC คาดจะมีกำไรสุทธิที่ 79 ล้านบาท ลดลง 15%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 8%จากไตรมาสก่อน โดยคาดมีรายได้ 578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9%จากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้เนื่องจาก ได้รับผลดีจากการเข้าสู่ฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่การออกสินค้าใหม่ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเครื่องดื่มรสโยเกิร์ต เป็นต้น (รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ของ 7-Eleven ที่ยังมีต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ)
ดังนั้นยังคงมีมุมมองที่ดีกับ TACC เช่นเดิมจากการเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนือง ทั้งตามการเติบโตของ 7-Eleven และการหากรายได้จากนอกกลุ่ม 7-Eleven ที่มีความพยายามสร้างแบรนด์สินค้าตัวเองมากขึ้น และจากกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 56% ของกำไรสุทธิที่คาดไว้ที่ 274 ล้านบาท ทำให้มีการปรับกำไรทั้งปี 2568 ขึ้นจากเดิม 8% มาอยู่ที่ 297 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน และปรับรายได้มาอยู่ที่ 2,224 ล้านบาท เติบโต 14% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” โดยมูลค่าเหมาะสมที่ 6.6 บาท