จับตา! โหวตเลือกนายกฯ วันนี้ หากวุ่นวาย “เป็นลบ” ต่อตลาดหุ้น เชื่อ รบ.เสียงน้อย ดันโครงการใหญ่ยาก
วันนี้ชี้ชะตาเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ใครกันแน่จะเป็นนายกคนต่อไป แต่นักวิเคราะห์ชี้! อนุทิน ตัวเต็ง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย คาด ไม่มี Implication ต่อเศรษฐกิจไทย การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือมาตรการที่เป็นประชานิยมมากๆ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด มองว่า เปิดเผยว่า ประเด็น การประชุมสภาผู้แทนฯของไทยในวันนี้ ซึ่งมีวาระสำคัญ คือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น นายกรัฐมนตรี โดยในกรณีฐานยังประเมินเช่นเดิมว่าจะเป็น นายอนุทิน ชาญ วีรกูล จากพรรคภูมิใจไทยที่จะได้คะแนนเสียงสนับสนุนในสภาฯเกินกึ่งหนึ่ง เพื่อเข้าไปบริหารบ้านเมืองด้วยรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ทั้งนี้หากเป็นภาพแบบ นี้ประเมินว่า SET Index ก็จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,300 จุด ตามที่ให้ไว้ต่อไป ในทางกลับกัน หากในวันนี้ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นใน สภาจนทำให้วาระดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป มองจะเป็น Negative sentiment ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นได้
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลชุดเดิมไปสู่รัฐบาลชั่วคราวที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจะมี Implication ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยแต่อย่างใด โดยข้อโชคดีอันหนึ่งที่กล่าวมาตลอดก็คือว่า เงื่อนเวลาของพ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ที่จะถูกผลักดันออกมาเป็นกฎหมายในช่วงถัดไปนั้น ก็คงจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
โดยการเบิกจ่ายของรัฐบาลที่คงจะไม่ได้มีการสะดุดนี้จะคอยเป็นตัวช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ ในภาวะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจยังอยู่ในระดับต่ำ
ในทางกลับกัน ประเมินการที่รัฐบาลชุดใหม่จะเป็นเพียงรัฐบาลเสียงข้างน้อย การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือมาตรการที่เป็นประชานิยมมากๆ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยเช่นกัน กล่าวโดยสรุปแล้ว ภาพของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปก็คงจะไม่ได้ถึงขั้นแย่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นเต้นมากนัก
สำหรับปรากฏการณ์ Election rally นั้นจากผลการศึกษาในอดีตตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปปี 2535 นั้น จะพบว่า SET Index มักมีการปรับขึ้นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ 2 สัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้งไปจนถึง 1 สัปดาห์หลังจากการเลือกตั้งแล้วเท่านั้น ที่สำคัญ
หากวัดจากช่วง 6 เดือนก่อนหน้าไปจนถึงวันเลือกตั้ง จะพบว่า SET Index มักมีการปรับตัวลงเฉลี่ย 3.6% เสียด้วยซ้ำ โดยมี Max drawdown เฉลี่ยระหว่างทางอยู่ที่ 5.7% ซึ่งการปรับตัวลงของดัชนีในช่วงหลายเดือนก่อนหน้าการเลือกตั้งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ ก็คือการที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลื่อนการจับจ่ายใช้สอยออกไป เพื่อรอการแพร่สะพัดของเงินที่จะเกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งส่วนภาคธุรกิจก็รอดูความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงานในอนาคตด้วยเช่นกัน
ยอดนิยม
.jpg)
MEDEZE จัดทัพธุรกิจ เดินหน้าผลิตยาจากสเต็มเซลล์ รายแรกของไทย ชิงตลาด 2.8 หมื่นลบ.
_0.jpg)
จับตา! โหวตเลือกนายกฯ วันนี้ หากวุ่นวาย “เป็นลบ” ต่อตลาดหุ้น เชื่อ รบ.เสียงน้อย ดันโครงการใหญ่ยาก
%20copy_0.jpg)
“ทักษิณ” ออกนอกประเทศ โบรกฯ ชี้หากไม่กลับ 9 ก.ย.นี้ มีผลต่อหุ้นครอบครัว “ชินวัตร”
_0.jpg)
มองข้ามช็อต! เปิดสถิติก่อนเลือกตั้ง SET พุ่ง 5% พบหุ้นปิโตรฯ-พลังงาน บวกแรง 12%
%20copy_0.jpg)