Talk of The Town

โบรกฯ ชี้ ยุบสภาไม่ดีต่อเพื่อไทย หลังความนิยมพรรคกำลังดิ่งเหว จับตา! นายกคนใหม่ ชี้ชะตาตลาดหุ้น


01 กันยายน 2568

การเมืองยังป่วน! ยังไม่ชัดเจนใครตัวเต็งนายก นักวิเคราะห์เชื่อไม่มีการยุบสภา ชี้ไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากความนิยมของพรรคกำลังลดลง แนะจับตา สัปดาห์นี้ จะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย มากกว่าเรื่องอื่นๆ

โบรกฯ ชี้ ยุบสภาไม่ดีต่อเพื่อไทย_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเด็นการเมือง “แพรทองธาร” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น โดยสัปดาห์นี้ จะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย มากกว่าเรื่องอื่นๆ 

โดยจะเป็นได้ทั้งบวกแล้วลบ แม้ตลาดรับรู้เรื่องเหล่านี้ (นายกฯพ้นจากตำแหน่ง) มาบ้างแล้ว แต่จากนี้ไป ยังไม่มีความ ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ทำให้ดัชนีจะผันผวน  กรอบดัชนี SET Index ก่อนทราบผลเลือกนายกฯ มองไว้ที่ 1,200-1,250 จุด โดยจะมีการ โหวต ช่วงวันที่ 3-5 กันยายนนี้

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าคำตัดสินของศาลจะเป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนมากขึ้น เกี่ยวกับว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จากความคาดหมายเดิมที่มีแค่สองทางเลือก คือ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ปัจจุบันมีอีกทางเลือกหนึ่งเพิ่มขึ้น คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเกิดกรณีใดก็ตาม หลังจากที่ประเทศได้ผู้นำคนใหม่ โดยคาดว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น จึงยังคงเป้าหมายดัชนี SET สิ้นปีไว้ที่ 1,350 จุด

สำหรับกรณี (Scenario) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้เกิดขึ้นหลังจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคสำคัญในฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้เข้าเจรจากับพรรคฝ่ายค้านหลัก พรรคประชาชน ซึ่งอยู่ในฝ่ายก้าวหน้า เพื่อขอให้สนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แม้ว่าพรรคประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ 

แต่การเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เนื่องจากฝ่ายวิจัย ไม่คาดคิดว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะเข้าร่วมกับพรรคประชาชนในสมการรัฐบาลในเวลานี้ เรื่องนี้อาจบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของภูมิทัศน์การเมืองใหม่ ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมอาจจะละทิ้งพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ผิดหวังกับผลงานของรัฐบาลมาเป็นเวลา 2 ปี และร่วมมือกับพรรคประชาชนในรูปแบบรัฐบาลผสมระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายก้าวหน้าในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า เนื่องจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังไม่สามารถจัดตั้งพรรคอนุรักษ์นิยมที่ใหญ่พอเป็นตัวแทนหลักได้

ดังนั้นในระยะสั้น ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าในบรรดาชื่อทั้งสามคนข้างต้น ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ไม่คาดว่าจะมีการยุบสภาก่อนการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องจากยังเป็นเรื่องคลุมเครือทางกฎหมายว่ารัฐมนตรีรักษาการหรือนายกรัฐมนตรีรักษาการจะสามารถทำเช่นนั้นได้หรือไม่ และที่สำคัญคือ การยุบสภาในขณะนี้ไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากความนิยมของพรรคกำลังลดลง