Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 21-03-23


21 มีนาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 21-03-23

21-03-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ยุบสภาฯแล้วจ้าาาาา เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 มีนาคม 2566) เว็บไซต์ราชกิจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน

***ในส่วนของไทม์ไลน์การเมือง จะเกิดอะไรขึ้น หลัง "ยุบสภา" 
-จากนี้ภายใน 5 วัน นับจากยุบสภาฯ( 20 มี.ค.2566) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเข้ามามีบทบาทหลักในการเลือกตั้ง จะนัดประชุมหารือ ออกประกาศวันเลือกตั้ง ส.ส. และวันเปิดรับสมัคร ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ รวมทั้งยื่นบัญชีแคนดิเดตนายกฯ
-คาดว่าวันเปิดรับสมัคร ส.ส. อาจจะเป็นวันที่ 3-7 เม.ย. 2566
-วันเลือกตั้งทั่วไป อาจจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 ลต.ล่วงหน้าก่อน 1 สัปดาห์ อาจจะเป็น 7 พ.ค. 2566
-กรณียุบสภาฯ ตามกฎหมาย กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งภายในกรอบเวลา 45-60 วัน
-คณะรัฐมนตรีก็ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย แต่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมนี้ ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี คณะรัฐมนตรีชุดใหม่

***อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหว ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ จะต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะนัดประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือสรุปไทม์ไลน์เลือกตั้ง ทั้งวันรับสมัครเลือกตั้ง-และ-วันเลือกตั้ง 

***บล.พาย ระบุว่าสถิติการเลือกตั้งปี 62 พบว่าก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 3.5% โดยกลุ่มที่โดดเด่นสุด ได้แก่ ค้าปลีก อาหาร และรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่เชิงปัจจัยพื้นฐานพบว่ารายได้ในกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL COM7 HMPRO DOHOME GLOBAL) ได้ช่วง Q1/62 (ช่วงที่มีการเลือกตั้งในปี 62) รายได้รวมอยู่ที่ 2.08 แสนล้านบาท (+0.8%QoQ +10.4%YoY) จากข้อมูลเบื้องต้นพอตีความได้ว่าช่วงเลือกตั้งได้มีเม็ดเงินสะพัดลงไปจนทำให้รายได้มีการขยายตัวเล็กน้อย (YoY เรามิได้ให้น้ำหนักมากนักเนื่องจากบริษัทต่างๆ อาจมีการขยายสาขาหนุนรายได้ขยายตัวขึ้น) เชิงกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนระยะกลางถึงยาวยังเน้นสะสมเช่นเดิม เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำ (ADVANC AOT CPALL HMPRO MINT) ส่วน Trading แนะนำ ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) โรงพยาบาล (BDMS) รับเหมา (CK STEC)

***บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้มุมมองว่าเมื่อพิจารณาข้อมูลทางสถิติพบว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวได้ดีกว่าภูมิภาคที่สุดในช่วงก่อนเลือกตั้ง 2 สัปดาห์และหลังเลือกตั้ง 1 เดือน กลุ่มที่มักปรับตัวขึ้นได้ดี คือ ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้างรวมถึงกลุ่มอาหารเครื่องดื่มและไฟแนนซ์ ที่แม้ไม่มีความสัมพันธ์เชิงสถิติ แต่การแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ที่รุนแรง ทำให้คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการบริโภคที่เร่งตัวขึ้นตามไปด้วย โดยหุ้นเชื่อมโยงการเมืองให้มีสีสันมากขึ้นเช่น SC, SIRI,PR9, STEC, STPI, TKS, ค้าปลีก, รับเหมา, ไฟแนนซ์, อาหาร และเครื่องดื่ม ขณะที่การไหลเข้าของกระแสเงินต่างชาติจะหนุนเงินบาทแข็งค่าและเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์และโรงไฟฟ้า

***บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า จากการเก็บสถิติในช่วงการเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2544-2562 พบว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน SET Index จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.90%, 1 เดือน ให้ผลตอบแทน +1.09%, 2 สัปดาห์ ให้ผลตอบแทน +2.09% และ 1 สัปดาห์ ให้ผลตอบแทน +1.87%
ส่วนหลังการเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ SET Index จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.81%, 2 สัปดาห์ ให้ผลตอบแทน 3.55% และ 1 เดือน ให้ผลตอบแทน 3.10%
ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่มักจะปรับตัวได้ดีในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่
ไอซีที +9.4%
สื่อและสิ่งพิมพ์ +7.8%
พาณิชย์ +6.4%
อาหารและเครื่องดื่ม +5.5%
กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +5.2% ตามลำดับ

***บล. โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่าหุ้นที่มักให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีก่อนการเลือกตั้ง 1-3 เดือน KBANK, SCB, ADVANC, INTUCH, SC, AMATA, SIRI, CPALL,MAKRO, KTC, MINT, BEC โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ 3.7-19.3% ด้วยโอกาส 60% ขึ้นไป ภายหลังการเลือกตั้งจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจหลังไทยเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ในภาวะตลาดผันผวนแนะนำสะสมหุ้นธีมเลือกตั้ง Laggard อย่าง JMT, THANI, CPALL, KBANK, BEC, STEC และหุ้นธีมเลือกตั้งปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่าง CBG,ADVANC เป็นต้น