รายงานพิเศษ : WP ลุ้นรับข่าวดี ก.พลังงานรื้อแผน PDP หนุนประชาชนติดแผงโซลาร์เซลล์
รัฐมนตรีพลังงานเตรียมรื้อแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ โดยส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ กระตุ้นการติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจบมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ที่ปีนี้ บริษัทฯจะเซ็นสัญญาลูกค้าเพิ่มอีก 4 เมกะวัตต์
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียม "รื้อแผนพีดีพี" หรือแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศครั้งใหม่ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีบทบาทมากขึ้น ลดการพึ่งพาเอกชน และลดต้นทุนค่าไฟอย่างแท้จริง พร้อมผลักดันกฎหมายส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะทำให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องผ่านขั้นตอนขออนุญาตให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่ "แจ้ง" ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ยังเร่งเจรจากับผู้ผลิตโดยตรง เพื่อให้คนไทยเข้าถึงโซลาร์เซลล์ในราคาประหยัด เพื่อให้คนไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบสบายกระเป๋ามากขึ้น ทั้งนี้ การลดค่าไฟไม่ใช่แค่การช่วยภาคครัวเรือน แต่ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอีกด้วย โรงงานกว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก หากค่าไฟถูกลง สินค้าก็มีโอกาสถูกลง ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนดีขึ้น
"รัฐบาลขอย้ำว่า พลังงานคือเรื่องความมั่นคงของชาติ และความเป็นอยู่ของคนไทย และเข้าใจดีว่าปัญหาค่าไฟฟ้าที่สะสมมานานสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนไม่น้อย รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขอย่างจริงจังทุกมิติ ขอให้ทุกคนมั่นใจและร่วมเป็นกำลังใจให้การปฏิรูปครั้งนี้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง"
ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สนับสนุนการทำธุรกิจของ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โดยนางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP ระบุแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการรับรู้รายได้ในการลงทุนธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)
ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีการเซ็นสัญญาลูกค้าเพิ่มอีก 4 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วจำนวน 11 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายให้ภายในปี 68 บริษัทตั้งเป้าเซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรวมทั้งหมด 5 เมกกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
ส่วนธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว บริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญได้เดินหน้าขยายจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนทั่วประเทศให้ครอบคลุมถึง 177 แห่ง ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพในการควบคุมต้นทุนด้านการขนส่ง พร้อมทั้งเพิ่มความครอบคลุมในการกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคในทุกพื้น
ทั้งนี้ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายยอดขายก๊าซ LPG ให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 836,228 ตัน พร้อมกันนี้ยังได้จัดสรรงบประมาณการลงทุนจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาและขยายจุดกระจายสินค้าครัวเรือนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก (Green Energy) นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve) ที่จะเสริมสร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ อย่างมั่นคงในระยะยาว
"บริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกตามแผนที่วางไว้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการลงทุนในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยฐานทุนที่มั่นคง แข็งแกร่ง ส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน" นางสาวชมกมล กล่าวในที่สุด
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ "WP Solar for Good" พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) รวมกำลังการผลิต 2,060 กิโลวัตต์ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญการพัฒนาสังคมไทย อย่าง วัด โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนรวมกว่า 200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายในระยะเวลา 5 ปี และมอบก๊าซหุงต้มให้แก่สถาบันที่เข้าร่วมโครงการปีละ 50,000 กิโลกรัม เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่คนไทยอย่างยั่งยืน ตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน "WE PROMISE" ของบริษัทฯ