Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 04-08-25 (ลุ้นหุ้น THAI เทรดวันแรก!กูรูชี้เป้า 5.50-10.75 บาท/หุ้น)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 04-08-25 (ลุ้นหุ้น THAI เทรดวันแรก!กูรูชี้เป้า 5.50-10.75บาท/หุ้น)
04-08-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***วันนี้หุ้น THAI ได้รับอนุญาตจากตลท.ให้กลับเข้ามาซื้อขายได้ หลังจากปฏิบัติตามข้อกำหนดของการพ้นเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แล้ว (หุ้น THAI อยู่กลุ่มอุตสาหกรรม : บริการ โดยจัดอยู่ในหมวดธุรกิจ : ขนส่งและโลจิสติกส์)
ทั้งนี้ ตลท. จะไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor), Dynamic Price Band และ Auto Pause สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ THAI ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการซื้อขายต่อเนื่องไปจนกว่าหลักทรัพย์ THAI จะมีการซื้อขาย กรณีที่หลักทรัพย์ THAI มีการซื้อขายแล้วตลาดหลักทรัพย์จะนำเกณฑ์ Ceiling & Floor ปกติ, เกณฑ์ Dynamic Price Band และเกณฑ์ Auto Pauseมาใช้กับหลักทรัพย์ THAI ในวันทำการถัดไป
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำหลักทรัพย์ THAI มารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index)ในวันทำการถัดไป นับจากวันที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นวันแรก
***อย่างไรก็ตาม ตลท.ยังไม่อนุญาตให้ขายชอร์ตในหลักทรัพย์ THAI โดยแจ้งว่าตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายังคงหยุดพักการซื้อขาย THAI Futures ต่อไป เนื่องจากหลักทรัพย์ THAI ได้มีการหยุดพักการซื้อขายเป็นระยะเวลานานทำให้ไม่สามารถประเมินความผันผวนของราคาและสภาพคล่องในการซื้อขาย ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการใช้หลักทรัพย์ THAI เป็นสินค้าอ้างอิงของ Single Stock Futures นั้น
***มาดูกันต่อว่ากูรูแต่ละค่ายได้ประเมินราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ไหนกันบ้าง เพื่อให้แฟนคลับของเจ๊และผู้ที่อ่านคอลัมน์ทุกท่านมีเบนช์มาร์ค เอาไว้ในใจเพื่อประเมินว่าตัวเองควรจะซื้อหรือขายหุ้น THAI ที่เท่าไหร่กันดี จากราคาปิดครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 3.32 บาท/หุ้น ..แต่ที่แน่ๆ เจ๊เชื่อว่าวันนี้เทรดสนั่นเมืองแน่นอน!!!
-บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น THAI ให้ราคาเหมาะสมที่ 10.70 บาท
-บล.กรุงศรี ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น THAI อยู่ที่ 7.65 บาm
-บล.บัวหลวง ให้ราคาเป้าหมายที่เหมาะสมในเชิงกลยุทธ์ของหุ้น THAI อยู่ที่ 5.50–6.80 บาท
-บล.ทรีนีตี้ มีมุมมองเป็นบวกต่อพัฒนาการของ THAI ภายหลังการฟื้นฟูกิจการ
***บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น THAI ให้ราคาเหมาะสมที่ 10.70 บาท มองว่าการเข้าแผนฟื้นฟูกิจการเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ พ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจสู่ก้าวใหม่ในฐานะบริษัทเอกชนที่ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัวและโปร่งใส ซึ่งได้มีการลดขนาดองค์กรและฝูงบินไปจำนวนมาก รวมถึงปรับโครงสร้างทุนและทยอยจ่ายหนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น เมื่อรวมเงินสดและรายการเทียบเท่าถือเป็น Net Cash Company
***บล.กรุงศรี ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น THAI อยู่ที่ 7.65 บาท โดยคาดผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มีกำไรปกติมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีฐานะการเงินที่มั่นคง มีเงินสดกว่า 1.2 แสนล้านบาท อัตราหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 2.2 เท่า หากราคาเปิดในวันที่ 4 ส.ค. นี้ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย มองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
การฟื้นฟูกิจการทำให้ THAI มีโครงสร้างต้นทุนดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 35-40% จากก่อนฟื้นฟูอยู่ที่20-30% ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลงกว่า 40% เมื่อเทียบกับก่อนฟื้นฟู และกลยุทธ์Network Strategy (รวมถึงการฟื้นของอุตฯ การบิน) หนุนให้อัตราบรรทุกผู้โดยสารและราคาตั๋วเฉลี่ยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
***บล.ทรีนีตี้ มีมุมมองเป็นบวกต่อพัฒนาการของ THAI ภายหลังการฟื้นฟูกิจการและการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยบริษัทวางแผนใช้เงินลงทุน (CAPEX) ราว 1.7 แสนล้านบาท ในปี 2568-2572 เพื่อจัดหาเครื่องบินใหม่ ปรับปรุงบริการและที่นั่งบนเครื่องบิน และทุนศูนย์ซ่อมเครื่องบิน โดยจะใช้เงินสดที่มี กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และยังไม่มีแผนกู้ยืมเพิ่มเติมจนถึงปี 2570 โดยตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 26% ในปี 2567 เป็น 35% ในปี 2572 เพิ่มจำนวนผู้โดยสารราวปีละ 16-17% และตั้งเป้าอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ราว 14-18%
***บล.บัวหลวง ให้ราคาเป้าหมายที่เหมาะสมในเชิงกลยุทธ์ของหุ้น THAI อยู่ที่ 5.50–6.80 บาท ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรหลักในปี 2568 อยู่ในช่วง1.8-2.5 หมื่นล้านบาท ) โดยใช้วิธี PER 5–9 เท่า ให้กรอบมูลค่าพื้นฐานเบื้องต้นที่ 3.20–7.90 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทมีแผนลดจำนวนแบบเครื่องบินจาก 8 รุ่น เหลือ 4 รุ่น และเครื่องยนต์จาก 9แบบ เหลือ 5 แบบ เพื่อประหยัดต้นทุน และโดยวางเป้าหมายเพิ่มฝูงบินจาก 78 ลำ (สิ้นมี.ค. 2025) เป็น 93 ลำในปี 2569 และ 137 ลำในปี 2572 เทียบเท่า CAGR ด้านกำลังการผลิต (ASK) ราว 14–17%
***พูดเรื่องวอลุ่มเทรดแล้วให้นึกถึง บล.บียอนด์ (BYD) ปรบมือรัวๆๆๆๆ ให้เลย นับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับที่ 3 ทางผู้บริหารฝากมากว่า “ขอขอบคุณความไว้วางใจลูกค้าทุกท่านที่มีต่อบริษัทของเรา และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป🙏🙏🙏”
***อีกเรื่องที่ บล.บียอนด์ ฝากมาว่า..สำหรับท่านพลาดงานสัมมนา หุ้นต่างประเทศ และ DR ของ อาจารย์ม้าเฉียว 3 สิงหาคม สามารถติดตามได้ที่ช่องทางนี้นะคะ https://www.youtube.com/live/R1eK3a9HZ90?si=DOXAeDlCH5wnctX3
😍ส่วนของอาจารย์จิม 2 สิงหาฯ ที่ให้ให้เกียรติมาพูดเรื่อง TFEX Gross Position นี่มัน Gap อะไร ทำไมแม่นอย่างนี้ ทองคำเตือนทุกคนล่วงหน้า แถมได้ราคาดี วันนี้ปล่อยของ พบกันในงานสัมมนา TFEX Gross Position ด้วย V-PILOT และ MoneyTrend ..ว่าแต่ MoneyTrend ตอนนี้อยู่ฝั่งไหน มาหาคำตอบ ได้ที่นี่เลย https://youtu.be/3kECOj09cy0
***ส่วนสถานการณ์ของ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงกว่า 500 จุดในวันศุกร์ (1 ส.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 ดิ่งลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเกินคาด และการประกาศกำหนดภาษีนำเข้ารอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
*** ทั้งนี้ ดาวโจนส์ปิดที่ 43,588.58 จุด ลดลง 542.40 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,238.01 จุด ลดลง 101.38 จุด หรือ -1.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,650.13 จุด ลดลง 472.32 จุด หรือ -2.24%
***มีรายงานว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันศุกร์ระบุว่า การจ้างงานในเดือน ก.ค. ขยายตัวต่ำกว่าคาด และตัวเลขของเดือนมิ.ย.ยังถูกปรับลดลงอย่างมาก ซึ่งสะท้อนว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอ
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง
***ส่วนตลาดหุ้นไทยศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปิดที่ 1,218.33 จุด ลดลง 24.02 จุด (-1.93%) มูลค่าซื้อขาย54,586.68 ล้านบาท เพราะเจอ sell on fact ข่าวภาษีสหรัฐหลังไทยปิดดีลอัตรา 19% ใกล้เคียงภูมิภาคไร้เซอร์ไพรส์ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ กูรูหุ้นแนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของบริษัทจดทะเบียนไทยต่อไป โดยให้แนวต้าน 1,250 จุด และแนวรับ 1,200 จุด