Talk of The Town

ตลาดหุ้นยุค “เพื่อไทย” พังยับ ช่วง เศรษฐา-แพทองธาร อ่วมทุกทาง ทำ SET Index ดิ่งแรงกว่า 412 จุด


02 กรกฎาคม 2568

ตลาดหุ้นยุค “เพื่อไทย” พังยับ_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ต้องยอมรับว่า การเมือง คืออีกหนึ่งปัจจัยกดดันหลักตลาดหุ้นไทย ยิ่งช่วงการเปลี่ยนตัวนายก หรือความขัดแย้งของแต่ละฝ่ายการเมืองที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน

และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ นาย เศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 พบว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน เพราะมีแรงกดดันจาก ความไม่ชัดเจนด้านเสถียรภาพการเมือง รวมทั้งมาตรการเศรษฐกิจ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท การเร่งลงทุนโครงการใหญ่ไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกกดดัน 

ส่งผลให้ในช่วงที่นาย เศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาดังกล่าว ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยติดลบไปกว่า 233.16 จุด

ล่าสุดในยุคของ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 31 ก็ไม่แพ้กัน ทั้งปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ทยอยเข้ามาให้แก้ปัญญา  ทั้งความไม่แน่นอนของเสถียรภาพรัฐบาล ความเสี่ยงแดนเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ปัญหามาตรการภาษีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เป็นต้น 

ทำให้นับตั้งแต่ที่นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่เป็นวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9:0 รับคำร้อง สว.ยื่นถอดถอน "แพทองธาร ชินวัตร" ขณะที่มติ 7:2 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ให้ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน โดยพบว่า ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลตอบแทนตลาดหุ้นติดลบไปกว่า -179.83 จุด

สรุปดัชนีตลาดหุ้นไทยในยุดของพรรคเพื่อไทยดำรงตำแหน่งนายกทั้ง 2 บุคคล พบว่า ผลตอบแทนติดลบรวมกันกว่า 412.99 จุด