Talk of The Town

อย่าเพิ่งวางใจ! สงครามตะวันออกกลางยังเสี่ยง ข่าวลือหยุดยิงส่อปั่นตลาด?


24 มิถุนายน 2568

โบรกฯ ชี้ความตึงเครียดสถานการณ์สงครามตะวันออกกลางยังมีความเสี่ยง ต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด อาจมีผลชี้ขาดให้ ผลตอบแทนสินทรัพย์ให้พลิกได้

อย่าเพิ่งวางใจ!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองถึงประเด็นเช้าที่ผ่านมา ปธน. ทรัมป์ประกาศว่า อิหร่านและอิสราเอลตกลงหยุดยิง โดยจะเริ่มมีผลประมาณเที่ยงคืนตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ทั้งสองประเทศจะค่อย ๆ ลดระดับปฏิบัติการทางทหารลง และสงครามจะจบลงภายในเวลา 24 ชั่วโมงซึ่งจะเป็นการยุติ “สงคราม 12 วัน” หลังอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ แต่ไม่มีอันตรายและคาดว่าจะเป็นการตอบโต้ในเชิงสัญลักษณ์

โดยเป็นผลให้ผลตอบแทนสินทรัพย์ต่างๆ พลิกกลับ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นราว 0.9% ถึง 1.1% สวนทางราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงแรงเกิน 7% ล่าสุดยืนต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล สะท้อนมุมมองที่มีต่อความตึงเครียดตะวันออกกลางที่ผ่อนลง สอดคล้องกับฉากทัศน์ของ BLOOMBERG ที่คาดไว้ว่าการตอบโต้แบบควบคุมได้ บวกกับผลักดันให้เกิดการหยุดยิง อาจกดดันให้ราคาน้ำมันลดลงสู่ระดับก่อนสงครามที่ประมาณ 65 ดอลลาร์

ด้านผลสำรวจ POLYMARKET คาดว่ามีความน่าจะเป็นแค่ 17% (เคยทำจุดพีคที่ 60%) ที่อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่เส้นทางการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ อยู่ในฝั่งเอเชียเป็นหลัก นำโดย “จีน” สัดส่วนราว 38% ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน ส่วน “สหรัฐฯ”มีสัดส่วนส่งออกเพียง 3% ทำให้การตอบโต้ผ่านการปิดช่องแคบฮอร์มุซอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ โดยตรง

อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดตะวันออกกลางยังวางใจไม่ได้ และต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจทำให้ผลตอบแทนสินทรัพย์ต่างๆ พลิกกลับทางอีกครั้ง โดยล่าสุดมีกระแสข่าวจาก สำนักข่าว FARS NEWS ของอิหร่านรายงานคำประกาศหยุดยิงของทรัมป์เป็น “เท็จ” เพราะต้องการเบี่ยงเบนความสนใจถูกโจมตีฐานทัพในโดฮา