จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : WP เดินหน้าขยายธุรกิจ Green Energy ตั้งเป้าปีนี้ติดโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 5 MW ดันรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน
17 มิถุนายน 2568
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เดินหน้าขยายตลาดโซลาร์เซลล์ ตามเป้าหมาย Green Energy สร้างรายได้เติบโตอย่างยั่งยืนการขยายตลาดติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยนายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ระบุ กระทรวงฯได้จัดทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมากพอสมควร กระทรวงฯจะมีการนำความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการปรับแก้ในสาระสำคัญต่อไป

ทั้งนี้ยืนยันว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะกำหนดให้กระทรวงฯทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการกำกับดูแลเรื่องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบ one stop service เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการติดตั้งและใช้โซลาร์เซลล์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตพลังงานใช้เอง (Self -consumption) รองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในระยะยาว และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางเช่นกัน
การสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาดเพื่อผลิตไฟฟ้า ส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โดย นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP ผู้นำการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" ระบุว่า บริษัทยังรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 11 เมกะวัตต์ โดยภายในปี 2568 ตั้งเป้าเซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 5 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับกลุ่มบริษัท
และคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจด้าน Green Energy เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นางสาวชมกมล กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายก๊าซ LPG ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว และมีการปรับแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดและด้านบริการ เพื่อการเพิ่มช่องทางการขายสินค้า และเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" ได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์ "เวิล์ดแก๊ส" อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 19.51%
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น รองรับแผนขยายจุดกระจายสินค้า จำนวน 5 แห่ง มูลค่าลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 177 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และรองรับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงลงทุนในธุรกิจ Green Energy จำนวน 80 ล้านบาท และลงทุนส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนวน 70 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
อีกทั้ง ได้วางกรอบการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (Environment, Social, Governance : ESG) ครบถ้วนทุกมิติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เข้าเป็นส่วนหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ในอนาคตและมีแผนเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมประเมิน FTSE Russell ESG Scores ปี 2569 เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ยืนยันว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะกำหนดให้กระทรวงฯทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการกำกับดูแลเรื่องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบ one stop service เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการติดตั้งและใช้โซลาร์เซลล์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตพลังงานใช้เอง (Self -consumption) รองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในระยะยาว และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางเช่นกัน
การสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาดเพื่อผลิตไฟฟ้า ส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โดย นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP ผู้นำการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" ระบุว่า บริษัทยังรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 11 เมกะวัตต์ โดยภายในปี 2568 ตั้งเป้าเซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 5 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับกลุ่มบริษัท
และคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจด้าน Green Energy เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นางสาวชมกมล กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายก๊าซ LPG ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว และมีการปรับแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดและด้านบริการ เพื่อการเพิ่มช่องทางการขายสินค้า และเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" ได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์ "เวิล์ดแก๊ส" อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 19.51%
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น รองรับแผนขยายจุดกระจายสินค้า จำนวน 5 แห่ง มูลค่าลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 177 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และรองรับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงลงทุนในธุรกิจ Green Energy จำนวน 80 ล้านบาท และลงทุนส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนวน 70 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
อีกทั้ง ได้วางกรอบการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (Environment, Social, Governance : ESG) ครบถ้วนทุกมิติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เข้าเป็นส่วนหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ในอนาคตและมีแผนเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมประเมิน FTSE Russell ESG Scores ปี 2569 เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น