Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 06-05-25 (ล็อคหุ้นดี_ราคาโดน_รอวันหุ้นเด้ง )


06 พฤษภาคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 06-05-25 (ล็อคหุ้นดี_ราคาโดน_รอวันหุ้นเด้ง )

 

06-05-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***สวัสดีประเทศไทย..ในวันที่ทรงตลาดหุ้นนับจากสัปดาห์นี้ที่น่าจะเริ่มทะยานเป็นขาขึ้นได้แล้ว   เจ๊จิ๋มแนะนำว่าจังหวะนี้แหล่ะเป็นโอกาสที่พวกเราจะเลือกหุ้นเด็ด_ราคาดี เข้าพอร์ตเอาไว้ทำกำไรงามๆ

***มาเริ่มกันที่ NKT หรือ  บมจ.โรงพยาบาลนครธน ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นเพิ่งไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปี 67 เป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น เตรียมรับทรัพย์ 26 พ.ค.นี้ ด้านบิ๊กบอส "รศ.ญาณเดช ทองสิมา" ประกาศแผนงานปี 68 เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ รุกขยายการลงทุนสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 บนถนนเอกชัย, โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม พร้อมเพิ่มจำนวนเตียงให้บริการโรงพยาบาลนครธน ปักหมุดรายได้รวมปีนี้เติบโตระดับ 8-10%

***NKT  วางแผนขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2บนถนนเอกชัย จำนวน 151 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ประมาณในช่วงปลายไตรมาส 3/2568, 2.โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธน เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2569 และ 3.โครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธนอีก 95 เตียง จากปัจจุบัน 150 เตียง จะทยอยเปิดให้บริการในปี 2568-2570

***สรุปภาพใหญ่ให้เห็นกันชัดๆ ถึงจุดเด่นที่สำคัญของโรงพยาบาลนครธน คือ สามารถให้บริการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน (โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ) โดยมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 20 ศูนย์ เช่น ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์หัวใจ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็ง และศูนย์ทันตกรรม เป็นต้น และมีแผนกการรักษาผู้ป่วย 1 แผนก ได้แก่ แผนกไตเทียม รวมถึงมีความพร้อมด้านทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์เฉพาะทางและสาขาเฉพาะทางอื่น ๆ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับการรักษาเพื่อตอบสนองการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และการรักษา (Medical) แบบองค์รวม

***ส่วนหุ้นอสังหาฯ ดีๆ ยกให้กับ SA หรือ บมจ.ไซมิส แอสเสท  เปิดแผนงานปี 2568 เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “THE SUSTAINOVATIVE LIVING” โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวสูง 70% แนวราบ 20% และรายได้ประจำ 10% ภายในปี 2569 พร้อมเร่งพัฒนาโครงการ Branded Residence และ Mixed Use อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และบริการสุขภาพ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดเช่าและสร้างรายได้ที่มั่นคง (จากปี 2567 ที่ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น รายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 137.56% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 74.47% โดยมีรายได้หลักจากโครงการแนวสูงในสัดส่วน 78.62% และโครงการแนวราบ 21.38% อีกทั้งยังมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงแรมและบริการอื่นๆ รวมคิดเป็นประมาณ 13.4% ของรายได้รวม และโรงแรมในเครือมีรายได้เติบโตกว่า 67% อาทิ Cassia Rama 9 Bangkok, Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Wyndham Garden Sukhumvit 42, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 และ Ramada by Wyndham Bangkok Sukhumvit 87)

***SAFE เป็นหุ้นอีกตัวที่ราคาดีมากกกกกก เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ลงทุนตอนนี้ถือว่าคุ้มสุดๆ  “นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์” ท่านคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชี้แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกฎหมายสมรสเท่าเทียมสำหรับกลุ่ม LGBT อาทิ กฎหมายการอุ้มบุญ  และกฎหมายการย้ายตัวอ่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการร่าง พ.ร.บ. จะช่วยสนับสนุนฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึง Trend การฝากไข่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น  ผลักดันให้รายได้การให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

***”ส่วนความคืบหน้าสำหรับดีล M&A ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะมา Synergy กับธุรกิจของ SAFE ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา และมีแนวโน้มที่จะสามารถปิดดีลได้ภายในปลายปีนี้ หากปิดดีลได้สำเร็จจะบุ๊กรายได้เข้ามาทันที “ ได้ยินกันชัดๆ และนะพวกเรา ปีนี้น่าจะมีปิดดีล M&A ลุ้นๆๆๆๆ

***BKGI ก้อเริ่ดดดดดดดด!!!! บิ๊กบอสสวย+เก่ง+วิชั่นไกล   “ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล”  เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่าบริษัทฯเดินหน้าขยายการให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์ร่วมกับพันธมิตร ทั้งในส่วนของห้องปฏิบัติการและให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ส่วนแผนร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการ (M&A) อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยศึกษาธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโต  โดยเฉพาะธุรกิจด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่เป็นเทรนด์ในอนาคตด้วย ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

***ปีนี้ BKGI ได้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 40-50 ล้านบาท เพื่อรองรับการก่อสร้างห้องปฏิบัติการแห่งใหม่ เพื่อขยายฐานการตรวจหาความเสี่ยงทางด้านโรคมะเร็ง เสริมศักยภาพการให้บริการให้กว้างขึ้น สนับสนุนการเติบโตของ BKGI ในอนาคต

“ตอนนี้บริษัทฯขยายขอบเขตการให้บริการใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ ความร่วมมือด้านการตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็ง , โรคอัลไซเมอร์, และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน การคัดกรอง ไปจนถึงการวินิจฉัยที่แม่นยำ นำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที ครอบคลุมทุกช่วงอายุวัย ที่จะมาสนับสนุนผลดำเนินงานให้เติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-25% เทียบปีที่ผ่านมา”

***หุ้นเด่นน่าซื้อ ราคาโดนๆ อนาคตไกล ผู้บริหารสุดขยัน จะไม่มีชื่อของ LEO ไม่ได้เด็ดขาด!!! เพิ่งจะผ่านพ้นการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินจ่ายปันผลรวม 44.1 ล้านบาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มีนาคม 2568และจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้

***บิ๊กบอสคนเก่ง+ขยัน “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” บอกว่า“การจ่ายปันผลในครั้งนี้เป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจในทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2568 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง ตามแผนยุทธศาสตร์ “LEO Go Green” ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และขยายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics รวมบริการด้าน Distribution Center /Warehouse ให้เติบโต 15 - 20% ได้ตามเป้า”

***สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปี 2568 ของ LEO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ขึ้นเป็น 30-35% ของรายได้รวม โดยบริษัทมีแผนต่อยอดการให้บริการด้าน Distribution Center / Warehouse รวมถึงการให้บริการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ  

 ***“ในปีนี้ LEO ยังเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจในกลุ่ม Freight โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและทางอากาศไปยังประเทศอินเดียและประเทศในกลุ่ม MIDDLE EAST  ที่เป็นตลาดมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องและยังมีโอกาสในการขยาย volume การส่งออกอีกมาก  เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการสินค้าคุณภาพดีจากต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจ Non-Freight อื่นๆ ของบริษัทฯ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 นี้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลส่งออกผลไม้ ซึ่งตลาดหลักของเรา ได้แก่ ประเทศจีน   โดย บริษัท ลีโอ ซอร์สซิ่ง แอนด์ ซัพพลายเชน จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ LEO ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานพาณิชย์เมืองคุนหมิง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแผนการค้าสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนลูกสดและทุเรียนแช่แข็งผ่านช่องทางขนส่งทางราง ไทย-ลาว-จีน ที่ล่าสุด ได้ให้การต้อนรับคณะผู้สั่งซื้อนำเข้าทุเรียนจากเมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และตัวแทนจากสมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนของเมืองคุนหมิง ( E-Commerce Cross Border Association) และ สมาคมการผ่านพิธีการศุลกากรของเมืองคุนหมิง ลงพื้นที่ศึกษา

***หุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนโดนๆ จากบริษัทดีๆ มีมาแนะนำอีกแล้วจ๊าาาา “บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล หรือ “MTC”) ผู้ให้บริการทางการเงินในมาตรฐานระดับโลกที่มุ่งมั่นส่งมอบแหล่งเงินทุนคุณภาพแก่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม  เตรียมระดมทุนด้วยหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ระดับ ‘A- (tha)’ โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 27 – 29 พ.ค.นี้
1.หุ้นกู้อายุ 3 ปี 11 เดือน 29 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี
2.หุ้นกู้อายุ 4 ปี 11 เดือน 28 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี
3.หุ้นกู้อายุ 6 ปี 11 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.30% ต่อปี

***โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ชุดนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ และมีวัตถุประสงค์ของการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อไปใช้ชำระคืนหนี้จากการออกหุ้นกู้ (roll-over) และเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ
***ผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ MTC สามารถจองซื้อจำนวนขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.thหรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้ 

-ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

-ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 869 และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai) โทร. 02-626-7777

-บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004

-บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050

-บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5555

-บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800 กด 1

-บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675

-บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999

-บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500

-บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) โทร.02-205-7000 ต่อ 7387

-บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59

-บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543

-บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 02-779-9000

-บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน))

-บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-820-0100

-บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-659-5272-73

-บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โทร. 02-343-9

***สำหรับแผนการดำเนินงานของ MTC ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10-15% พร้อมคุม สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 2.70% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม ภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมเป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพ พร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับสังคมไทยอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในมาตรฐานระดับโลก ตอกย้ำความเป็น World-Class Thai Microfinance