จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TACC ผลงานไตรมาส 3 สุดแกร่ง จากกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า B2C-B2B-ออกสินค้าใหม่


12 พฤศจิกายน 2567

บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) ยังคงสร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่เติบโตอย่างเต็มที่  โดยไตรมาส3 ยังทำกำไรได้กว่า 10%  ผลจากการเน้นขยายฐานลูกค้า B2C-B2B-ออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องและลิขสิทธิ์สินค้า โดยล่าสุดได้ดูแลลิขสิทธิ์ ปังปอนด์ - หนูหิ่น - รามเกียรติ์ ในประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปี  

รายงานพิเศษ TACC ผลงานไตรมาส 3 สุดแกร่ง.jpg

แม้หนี้ภาคครัวเรือนของไทยจะสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก แตะระดับ 16.32 ล้านล้านบาท หรือ 89.61% ของ GDP แต่ก็ไม่ส่งผลต่อยอดขายสินค้าของ บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC)  สะท้อนจากผลงานไตรมาส 3 ของบริษัทที่ยังเติบโตได้ดี  โดยนายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร  เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 บริษัทมีรายได้รวม 479.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.21 ล้านบาท คิดเป็น 13.01% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 424.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 66.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.42 ล้านบาท หรือ 10.73% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.89 ล้านบาท 

ขณะที่งวด 9 เดือนปี 67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,431.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.18 ล้านบาท คิดเป็น 14.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,251.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.95 ล้านบาท หรือ 21.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 168.72 ล้านบาท  

บริษัทได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของการบริโภคของลูกค้ากลุ่มนักเรียน พนักงานบริษัท และนักท่องเที่ยวที่มากกว่าปีที่แล้วและการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค การพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดร่วมกับ CPALL ในฐานะ Key Strategic Partner การขยายสาขาของ ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ซึ่งช่วยผลักดันยอดขายเพิ่ม รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

"รายได้ในไตรมาส 3/67 เติบโตขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้า B2B จากปัจจัยบวกคนเข้าร้าน 7-Eleven มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเครื่องดื่มของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และในส่วนของกลุ่มลูกค้า B2C ที่เติบโตจากขยายสาขาของกลุ่ม Cafe  Business รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ" นายชัชชวี กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตในระดับ Double-Digit โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทยังคงเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น Blue Funtasy Series เครื่องดื่มเย็นใหม่ 3 รายการ ที่จะเข้ามาเติมสีสันความสนุกปลุกความสดใส เตรียมวางจำหน่ายในมุม All Cafe ร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ม.ค.68

ขณะเดียวกันบริษัทยังให้การสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยได้เซ็นสัญญาดูแลลิขสิทธิ์ ปังปอนด์ - หนูหิ่น - รามเกียรติ์ ในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 ปี  ซึ่งทั้งปังปอนด์ - หนูหิ่น - รามเกียรติ์ เป็นคาแรคเตอร์ไทยชื่อดังสุดคลาสสิก ที่ได้รับความชื่นชอบสูง มีการพัฒนาและผลิตในรูปแบบต่างๆครบวงจร เช่น แอนิเมชัน,ภาพยนตร์ และสินค้าเมอร์แชนไดส์  ซึ่งเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในวงกว้าง ดึงดูดความสนใจในกลุ่มลูกค้าทั้งหญิงและชาย ตั้งแต่เด็กมหาลัยและวัยทำงาน ที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย 

ทั้งนี้ปัจจุบัน TACC ได้รับลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนดูแลCharacterการทำตลาด และการจัดจำหน่ายในประเทศไทยหลาย Character เช่น Bellygom (เบลลี่กอม) คาแรคเตอร์หมีสีชมพูสุดคิวท์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีOHIGE no PON(โฮฮิเงะโนะพอน) สุนัขตัวผู้ที่มีหนวดเครามองโลกในแง่ดีจากประเทศญี่ปุ่น และหมาจ๋า เรื่องราวระหว่างคนกับสุนัขที่ถ่ายทอดออกมาในมุมน่ารักจากประเทศไทย และอื่นๆ เช่นWARBIE YAMA , Line Creators Thailand