Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 21-03-24


21 มีนาคม 2567
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 21-03-24

21-03-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***ปรบมือรัวๆ พร้อมร้องตะโกนดังๆ นายแน่มาก!!! ต้อนรับ "วันแห่งความสุขสากล" 20 มีนาฯ กับไอพีโอน้องใหม่  BKGI เข้าซื้อขายเป็นวันแรก เปิดตลาดที่ราคา 2.18 บาท จากนั้นก้อสนุกสนานเลยตลอดทั้งวัน สุดท้ายปิดตลาดที่ 4.40 บาท เพิ่มขึ้น 2.77 บาท หรือ +169.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมมากเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้น! 3,227.85 ล้านบาทดูจากทรงแล้ววันนี้ BKGI  น่าจะทะยานต่อไปได้ ..แฟนคลับมาร่วมส่งแรงใจ-แรงเชียร์กันได้เลย! 

***ดร.ทราย ซีอีโอสาว-สวย-เก่งของ BKGI ฝากมาว่า "ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ BKGI อย่างอบอุ่น ทีมงานและผู้บริหารของบริษัทฯพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ พร้อมจับมือพันธมิตรมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชน เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการขยายการให้บริการใหม่ๆ เพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต  ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทโตเท่าตัว ภายใต้จุดแข็งกลุ่ม BGI เจ้าแห่งศาสตร์จีโนมิกส์การถอดรหัสพันธุกรรมระดับโลก และแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ที่พร้อมเติบโตไปกับอุตสาหกรรมการแพทย์จีโนมิกส์ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคต” 

***ทางด้าน "พี่แกะ-สมภพ" เอฟเอมือทอง! ชี้ชัดๆ ว่า BKGI จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในอนาคต เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง เห็นได้จากการเติบโตของรายได้ในการให้บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของ BKGI ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก ในช่วงปี 2563 - 2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 23.40% ต่อปี และภายหลังจากเข้าตลาดหุ้นยิ่งทำให้มีฐานทุนที่พร้อมสนับสนุนให้มีศักยภาพผลักดันการเติบโตได้มากขึ้น” นายสมภพกล่าวในที่สุด

***วันนี้ขอมัดรวมข่าวดีของบริษัทเด่นๆ จัดหนัก!ให้แฟนคลับแบบเต็มๆ เลย!!! เริ่มจาก SOLAR ภายใต้การบริหารของ  “สิทธิชัย กฤชวิวรรธน์” กางแผนปี 2567 ผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 418.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 171.37 ล้านบาท  ครั้งนี้ประกาศลุย!!! ธุรกิจ EPC เต็มพิกัด  และตอนนี้ตุน Backlog ไว้ในมือแล้วมากกว่าปีก่อน 500 ล้านบาท พร้อมเจรจาพันธมิตรต่างประเทศ เพิ่มโอกาสการคว้างานใหม่ เล็งแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ปักธงรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20-25% รับอานิสงส์นโยบายรัฐเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

***“ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 นี้ มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากนโยบายภาครัฐที่มีการสนับสนุนให้ทุกคนหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น รวมถึงยังมีงานของทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้” เจ๊จิ๋มมิได้กล่าว..แต่เป็นทั่นซีอีโอ SOLAR "สิทธิชัย" กล่าวไว้จ๊า

***มาต่อกันที่ TPCH เฮ!ดังๆ หลังจากได้เซ็นสัญญาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ 2 (SP2) ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองสาหร่าย กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ โดยมีปริมาณเสนอขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ กับ กฟภ.เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะ SCOD ในปี 69 พร้อมเดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะในประเทศ ประมาณ 4 โครงการ  รุกขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลมในสปป.ลาว-กัมพูชา ดันผลงานปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน

***ยังอยู่ในแวดวงของธุรกิจพลังงานจ๊ะ! ปรบมือแสดงความยินดีรัวๆๆๆ กับ COLOR คว้าออเดอร์ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ ภายใต้ชื่อ “SUNTARAโครงการโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ให้กับบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ขนาดกำลังการผลิตรวม 8 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ลอยน้ำขนาด 0.6 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง 

***สำหรับโครงการนี้ COLOR ทำแบบ Turnkey โดยรับผิดชอบในส่วนการออกแบบ และติดตั้งผลิตภัณฑ์ทุ่นลอยน้ำ ภายใต้ชื่อ “ SUNTARA” รุ่น LOMA I and LOMA II  ทั้งสองโครงการมีกำหนดที่ส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/67  ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ทุ่นลอยน้ำ SUNTARA™ ผ่านการทดสอบและรับรองคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลจากห้องทดลองทั้งในและต่างประเทศ และผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม ISO9001 

***ทางด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์” ส่งสัญญาณถึงผลงานปี 67 คาดว่า COLOR จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยในปีนี้ธุรกิจพลังงานทดแทนประเภท ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ จะเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมีแผนการลงทุนในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% เป็น 10-15% ของรายได้รวม ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

***ส่วน GUNKUL ที่มี "นายหญิงโศภชา" นั่งบัญชาการอยู่นั้น!!! มั่นใจว่าปี 67 นี้บริษัทฯจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 66 ที่มีรายได้รวม 7,77.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,576.18 ล้านบาท โดยตั้งเป้าปี 2567 จะมีรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท และพุ่งแตะ 10,000 ล้านบาทในปี 2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงาน จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 15% เนื่องจากธุรกิจทุกภาคส่วนที่ดำเนินการอยู่มีงานในมือ (Backlog) ที่ทยอยรับรู้รายได้และมีการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งธุรกิจผลิตและการจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า, ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 

***ส่วนโปรเจกในมือของ GUNKUL ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 1,563 เมกะวัตต์ และคาดว่าในอีก 3 ปี (2567-2569) จะมีจำนวนเมกะวัตต์สะสมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนด้านพลังงานทดแทนใน 5 ปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 45,000  ล้านบาท (ทั้งนี้ GUNKUL จะทยอยเซ็น PPA เพิ่มเติมอีกให้ครบ 832 เมกะวัตต์ ซึ่งที่ผ่านมาเซ็นไปแล้ว 621.4 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอย COD ในปี 69   สนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาโดยรวมสูงขึ้นเป็น 1,563 เมกะวัตต์ จากเดิม 615.55 เมกะวัตต์ เติบโตเพิ่มขึ้น 100%)

***ปิดท้ายวันนี้กับ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย”บิ๊กบอส CHO มีรายงานเรื่องการเก็บหุ้น CHO เพิ่ม 18.9988%  โดยมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบของตลท. ระบุว่า เป็นการได้มา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 จำนวน 18.9988%  ทำให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาเพิ่มเป็น 28.0207% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ แหม!!! พอเห็นรายการแบบนี้แล้วดีใจแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย เพราะสะท้อนภาพว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่และยังเป็นผู้บริหารของบริษัทอีกด้วย  รัก CHO ขนาดนี้...ไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานเพื่อให้บริษัทสร้างรายได้-กำไรและกลับมาแข็งแกร่งได้ในเร็ววัน