AOT MINT ERW จัดไป...3 หุ้นท่องเที่ยวอนาคตดี

หลังตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (4-10 มี.ค.) ลดลง -7% บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่ามองเป็นลบเล็กน้อยจากตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมที่ลดลง เพราะเป็นการลดลงตามฤดูกาลหลังเทศกาลตรุษจีน และส่วนใหญ่เป็นการลดลงจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียและเกาหลีใต้เป็นหลัก ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักยังทรงตัว โดยหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้จากสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR ทั้งนี้ บล.กสิกรไทยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยต่อวันจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 24 จะอยู่ระดับราว 1.1-1.2 แสนคน/สัปดาห์เพราะยังอยู่ในช่วง High season ของไทย และจะเริ่มกลับมาเร่งตัวเพิ่มมากขึ้นในช่วงสงกรานต์เดือน เม.ย. 24 

ขณะที่ทาง ททท. ประเมินว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 24 จะสร้างรายได้รวมประมาณ 24,420 ล้านบาท ขณะที่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย 510,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 8,760 ล้านบาท เติบโต49% จากปี 23 ทั้งนี้ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มขึ้น +17% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +56% YoY โดยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดยเรายังชอบ AOT MINT ERW

AOT (ซื้อ/เป้า 79.00 บาท) 

ส่งผลบวกต่อจำนวนผู้โดยสารที่ปรับตัวดีขึ้น จะช่วยหนุนกำไร 2QFY24E ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY, QoQ และ 2HFY24E จะได้อานิสงส์วีซ่าฟรีไทย-จีนเป็นการถาวร

MINT (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) 

จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซ้อื ขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 11x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) เทียบกับ ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA และยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากฟุตบอลยูโรที่เยอรมัน (14 มิ.ย.-14 ก.ค. 24) รวมถึงโอลิมปิกที่ฝรั่งเศส (26 ก.ค.-11 ส.ค. 24)

ERW (ซื้อ/เป้า 5.80 บาท) 

จากกำไรปกติ 1Q24E จะเพิ่มขึ้นได้ทงั้ YoY/QoQ จากเพราะเป็นช่วง High season ของไทย ขณะที่ราคาหุ้น 6 เดือนที่ผ่านมาลงมาถึง -20% ด้าน valuation ซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 14x (10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า CENTEL ที่ 15X (10-yr average EV/EBITDA)