จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TIDLOR หุ้นดีมี buffer สูงสุดในกลุ่ม coverage ratio 268% สินเชื่อโตปีละ15%


13 กุมภาพันธ์ 2567
บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เป็นหุ้นที่ได้รับแนะนำอย่างต่อเนื่อง  จากสินเชื่อที่เติบโตได้ดีเฉลี่ยปีละ 15% ผลการดำเนินงานกลับมาขยายตัวได้ดี

บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR)  โดยคาดการณ์ว่า กำไร 4Q23E เพิ่มขึ้น YoY จากสินเชื่อที่เพิ่ม , ลดลง QoQ ตามคาด

รายงานพิเศษ TIDLOR.jpg

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 28.00 บาท อิง 2024E PBV ที่ 2.3x (-1 SD below average PBV) เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q23E ที่ 929 ล้านบาท (+14% YoY, -8% QoQ) เป็นไปตามทิศทางที่เราเคยประเมิน โดย

1) สินเชื่อขยายตัว +19% YoY, +5% QoQ  
2) รายได้ค่าธรรมเนียมประกันเพิ่มขึ้น +20% YoY, +22% QoQ จากการเข้าสู่ฤดูกาลขายประกัน 
3) cost to income เพิ่ม QoQ เป็น 58% จากค่าใช้จ่ายประกัน และรับรู้ขาดทุนรถยึดที่สูง 
4) credit cost สูงขึ้นที่ 3.3% จากการตัดจำหน่ายหนี้สูญเพิ่มขึ้น เพื่อให้ NPL ทรงตัวที่ 1.5%

เราคงกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 4.2 พันล้านบาท (+13% YoY) จากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น +17% YoY ตามเศรษฐกิจที่เติบโต และ NPL ลดลงเป็น 1.5% ตามคุณภาพสินเชื่อใหม่ที่ดีขึ้น ขณะที่เราประเมินว่า credit cost จะทรงตัวสูงที่ 3.0% และต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวเป็น 3.3% จากแนวโน้มต้นทุนทางการเงินที่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวลงใน 2H24E

ราคาหุ้น outperform SET +18% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จาก bond yield ที่ทยอยลดลง และ outlook บริษัทที่ดีขึ้น ภายหลังที่บริษัทปรับเป้า NPL ปี 2023E ลงเป็นไม่เกิน 1.65% (เดิม 1.8%) 

ทั้งนี้เราคงแนะนำ “ซื้อ” จากความกังวลต่างๆที่คลี่คลาย ทั้ง NPL ที่สามารถควบคุมได้, เริ่มปรับตัวลงในปี 2024E และมีสัดส่วนลูกหนี้ที่ยังให้ความช่วยเหลือต่ำไม่เกิน 0.5% ของสินเชื่อรวม โดยยังคงมี buffer ที่สูงสุดในกลุ่มที่ coverage ratio 268%, สินเชื่อเติบโตดีต่อเนื่องเฉลี่ยปี2024E-26E ที่ +15% YoY, ผลการดำเนินงาน 1Q24E ที่จะกลับมาขยายตัว YoY/QoQ และไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยจากการเริ่มบังคับใช้ responsible lending รวมทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดต่ำที่เพียง 2023E PBV ที่ 2.0x (-1.25SD)

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า จากการพูดคุยกับบริษัท บล.ทิสโก้ประมาณการกำไร TIDLOR ใน 4Q23F อยู่ที่ 948 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY เมื่อพิจารณาจากไตรมาสก่อน มูลค่านี้แสดงถึงการลดลง 5.8% โดยส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น (แข็งแกร่งขึ้นตามฤดูกาลใน 4Q) 

และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น (เพื่อรองรับการตัดหนี้สูญและการปรับพอร์ตสินเชื่อในปี 2024) ประมาณการกำไรนี้อ่อนแอกว่าประมาณการครั้งก่อนประมาณ 4% เมื่อดูการประเมินมูลค่าปี 2024F ของเรา อย่างไรก็ตาม เราสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นเร็วๆนี้ (+23% ตั้งแต่เดือนพ.ย.2023) ทำให้มี upside ที่จำกัดจากราคาเป้าหมายของเราที่ 25.00 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ“ซื้อ” สำหรับ TIDLOR โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 25.00 บาท