Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 31-01-24


31 มกราคม 2567
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 31-01-24

31-01-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ     

***วันนี้ 31 มกราคม 2567 จารึกอีกครั้งสำหรับประวัติศาสตร์การเมืองของไทย คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีเรื่อง นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกลเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯหรือไม่

***ศาลจะเริ่มประชุมในเวลา 09.30น.แถลงด้วยวาจา ลงมติ และจัดทำคำวินิจฉัย ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 14.00น.ตามที่นัดหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 66 ศาลได้ไต่สวนพยานฝั่งผู้ถูกร้อง 2 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถติดตามผลการอ่านคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

***อีกเรื่องที่ต้องติดตามดู เพราะมีผลกระทบต่อการลงทุนและตลาดหุ้นโดยตรงคือ การประชุมของเฟดในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ กูรูคาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% อย่างต่อเนื่องจาก ด้วยเหตุผลดังนี้
1) เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด โดยในเดือน ธ.ค. 2566 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.4% YoY ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงค่อนข้างช้า (sticky) และยังอยู่ในระดับสูงกว่าเงินเฟ้อทั่วไปที่ 3.9% YoY จากภาคบริการและอัตราค่าเช่าที่ปรับลดลงช้า 
2) ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง  โดยในเดือน ธ.ค. 2566 อัตราการว่างงาน (unemployment rate) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3.7% และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่องที่ 216 พันตำแหน่ง

***สำหรับกำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำปี 2567 มีดังนี้
-วันที่ 30-31 ม.ค.
-วันที่ 19-20 มี.ค.
-วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
-วันที่ 11-12 มิ.ย.
-วันที่ 30-31 ก.ค.
-วันที่ 17-18 ก.ย.
-วันที่ 6-7 พ.ย.
-วันที่ 17-18 ธ.ค.

***มาแวะดูหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร เซียนหุ้นคัดออกมาให้เน้นๆ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ AOT-AAV-MINT-CENTEL-ERW-SPA-SKY

***"รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม" มีรายงานข่าวว่าศาลฮ่องกง สั่งให้เอเวอร์แกรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเลิกกิจการ
ขายสินทรัพย์ชำระหนี้ 3.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังล้มเหลวในการนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กำลังจับว่าศาลล้มละลายที่จีนจะมีคำตัดสินยืนตามศาลที่ฮ่องกงหรือไม่ เนื่องจากใช้กฎหมายคนละระบบ และทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทกว่า 90% อยู่ในประเทศจีน ทำให้การบังคับคดีทำได้ยาก โดยหากคำตัดสินต่างกันจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในเรื่องอำนาจศาลของฮ่องกงในการพิทักษ์ผลประโยชน์ของนักลงทุนต่างชาติเมื่อเทียบกับอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

***อีกเรื่องที่ต้องรู้คือกรณีที่นายกฯ "เศรษฐา" กล่าวว่าได้เตรียมประกาศแผนใหญ่ไทยฮับการบิน มี.ค.นี้ เล็งลดค่าแลนด์ดิ้งฟรี เพิ่มค่าปรับไฟลต์ดีเลย์ เพิ่มอัตราการต่อเครื่อง พร้อมประกาศแผนลงทุนเพิ่มเติมหลายสนามบินในประเทศ  หากว่ามีการอัปเกรดไทยให้เป็นฮับการบินภูมิภาคจริง คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแผนการเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารประเภท transit ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 1.5% เทียบกับสนามบินชั้นนำอื่นๆ ที่ 20%-30% จะช่วยเพิ่มรายได้แลนด์ดิ่งฟรี และ PSC ผู้โดยสาร transit ที่จะมีการเก็บในอนาคต ซึ่งจะช่วยชดเชยการลดค่าแลนด์ดิ้งฟรี

***รายงานข่าวบอกว่าแผนพัฒนาสนามบินใหม่ได้แก่ สนามบินภูเก็ต 2 หรือสนามบินอันดามัน ที่ จ.พังงา คาดจะแล้วเสร็จในปี 2574 และสนามบินเชียงใหม่ 2 หรือสนามบินล้านนา ที่ จ.ลำพูน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576 จะช่วยลดความแออัดของสนามบินทั้ง 2 ในปัจจุบันได้ และช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้เติบโตได้ดีต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจะเป็นบวกต่อทั้ง AOT และกลุ่มสายการบิน รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว