จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : 5 เหตุผลหนุนผลงาน PRM โตติดลมบน


04 มกราคม 2567
ผลงาน บมจ. พริมา มารีน (PRM) ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่อง จาก 5 ปัจจัยสนับสนุน  ขณะที่บล.ทิสโก้แนะนำ “ซื้อ” 

รายงานพิเศษ PRM.jpg

บล.ทิสโก้ คาดการณ์ผลดำเนินงานบมจ. พริมา มารีน (PRM) ใน 4Q23F มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น QoQ  โดยมองว่าผลประกอบการ 4Q23 จะเพิ่มขึ้น QoQ จาก 

1) ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศที่เข้าสู่ช่วง  high season ในปลายปี รวมกับการเพิ่มกองเรือเคมี 1 ลำ 

2) ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ เรือ Aframax ที่เข้าอู่แห้งเพื่อซ่อมบำรุงกลับมาให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา

3) ธุรกิจ FSU เรือที่ซ่อมบำรุงในไตรมาสที่แล้วกลับมาให้บริการในไตรมาสนี้ และจะมีกำไรจากการขายเรือ
เข้ามาด้วย 

4) ธุรกิจ Offshore เรือให้บริการครบ (1 AWB + 13 Crew Boat) และจะมีเรือเพิ่มขึ้น 1 AWB + 2 Crew Boat) ใน 1Q24F 

5) คาดจะมี FX Gain เล็กน้อยเมื่อเทียบกับขาดทุน FX 18 ล้านบาทใน 3Q23

ดังนั้นบริษัทยังคงคำแนะนำ ซื้อ มูลค่าเหมาะสม 10 บาท  อิงจาก PER 15 เท่า 2023F  เนื่องจากแนวโน้มกำไรดีขึ้นและราคาหุ้นปรับลงมามากแล้ว

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม  มาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน

ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับมุมมองของผู้บริหาร นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี   PRM ที่มั่นใจผลประกอบการในไตรมาส 4/66  จะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่รายได้รวมปี 66 โตตามเป้าที่ 10% เมื่อเทียบกับปี 65 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจขนส่งน้ำมันภายในประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งน้ำมันเครื่องบิน เนื่องจากเป็นช่วง High season ตามฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงจะได้รับผลดีจากการมาตรการ Free Visa ให้กับนักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล ประกอบกับเรือขนส่งปิโตรเคมีเหลวลำที่ 2 ขนาด 11,000 DWT ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4

นอกจากนี้บริษัทยังคงมองโอกาสในการขยายธุรกิจในส่วนของกลุ่มเรือ Offshore Support อย่างต่อเนื่อง   โดยเมื่อไตรมาส 4 ที่ผ่านมา บริษัทได้สัญญาการให้บริการเรือขนส่งและที่พักกลางทะเล (Accommodation Work Barge, AWB) จาก ปตท.สผ. เพิ่มอีก 1 ลำ พร้อมรับรู้รายได้ตั้งแต่ ม.ค. 67  ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเรือ AWB ให้บริการในอ่าวไทยถึง 2 ลำ ตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป

ขณะที่ในปี 67 บริษัทจะมุ่งเน้นขยายกลุ่มเรือปิโตรเคมีและธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นหาเรือขนส่งปิโตรเคมีเสริมกองเรืออย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโรงกลั่นในภูมิภาคที่กำลังขยายกำลังการผลิต ส่วนธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต ประเมินว่ายังมีความต้องการสูงตามกิจกรรมการขุดเจาะสำรวจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเตรียมรับเรือ Crew Boat อีก 2 ลำ เพิ่มเติมเพื่อเข้างานระยะยาว ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพและเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการของปี 67 ให้เติบโตตามแผน
PRM