Mr.Data
เปิดสถิติหุ้นไอพีโอมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ย้อนหลัง 5 ปี (2562-2566) เข้าเทรดวันแรกน่าผิดหวังแทบทุกตัว
...เพราะแทบจะไม่มีส่วนต่างกำไรให้กับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไอพีโอ
ร้ายกว่านั้นระหว่างเทรดวันแรกยังต่ำกว่าราคาจอง!
ล่าสุด 20 ธันวาคม 2566 บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) (SCGD) หุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท
เข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดต่ำกว่าราคาไอพีโอกว่า 12.17% โดยเฉิดตลาดที่ 10.10 บาท/หุ้น เทียบราคาไอพีโอ 11.50 บาท/หุ้น
SCGD ประกอบธุรกิจ ผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตสุขภัณฑ์ในประเทศไทย รวมถึงผู้จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของตนเอง และธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ การให้บริการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
การกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 11.50 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่ได้มาจากกระบวนการสำรวจความต้องการของผู้ลงทุน (Bookbuilding) หากพิจารณาผลกำไรสุทธิช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ต.ค.65-ก.ย.66) ที่ 953.6 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ที่ 1,650 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.58 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ (P/E) ประมาณ 19.90 เท่า
Mr.Data ถือโอกาสพานักลงทุนมาสำรวจหุ้นไอพีโอมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ 5 ปี ย้อนหลัง (2562-2566)
...เพราะแทบจะไม่มีส่วนต่างกำไรให้กับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไอพีโอ
ร้ายกว่านั้นระหว่างเทรดวันแรกยังต่ำกว่าราคาจอง!
ล่าสุด 20 ธันวาคม 2566 บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) (SCGD) หุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท
เข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดต่ำกว่าราคาไอพีโอกว่า 12.17% โดยเฉิดตลาดที่ 10.10 บาท/หุ้น เทียบราคาไอพีโอ 11.50 บาท/หุ้น
SCGD ประกอบธุรกิจ ผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตสุขภัณฑ์ในประเทศไทย รวมถึงผู้จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของตนเอง และธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ การให้บริการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
การกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 11.50 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่ได้มาจากกระบวนการสำรวจความต้องการของผู้ลงทุน (Bookbuilding) หากพิจารณาผลกำไรสุทธิช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ต.ค.65-ก.ย.66) ที่ 953.6 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ที่ 1,650 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.58 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ (P/E) ประมาณ 19.90 เท่า
Mr.Data ถือโอกาสพานักลงทุนมาสำรวจหุ้นไอพีโอมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ 5 ปี ย้อนหลัง (2562-2566)
เริ่มตั้งแต่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้าง และอยู่ในทำเนียบเศรษฐีโลก เข้าเทรดในปี 2562 ราคาไอพีโอ 6 บาท เข้าเทรดวันแรก ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มาร์เก็ตแคป 185,742 ล้านบาท
ตามมาด้วยปี 2563 บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ของ “กลุ่มจิราธิวัฒน์” ราคาไอพีโอ 42 บาท เข้าเทรดวันแรก ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มาร์เก็ตแคป 2.53 แสนล้านบาท
ปี 2564 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เข้าเทรด ราคาไอพีโอ 18 บาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 208,980 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 26.50 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 47.22%
โดย OR ได้ซุปตาร์ นักลงทุน VI อย่าง “เซียนฮง” สถาพร งามเรืองพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน “เซียนฮง” ไม่ได้ติดทำเนียบผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ประการใด
และในปี 2565 บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (TLIX เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก โดยเปิดการซื้อขายในเช้าวันนี้ที่ราคา 16 บาทต่อหุ้นเท่ากับราคาไอพีโอ มาร์เก็ตแคป าร์เก็ตแคป 1.83 แสนล้านบาท
ตามมาด้วยปี 2563 บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ของ “กลุ่มจิราธิวัฒน์” ราคาไอพีโอ 42 บาท เข้าเทรดวันแรก ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มาร์เก็ตแคป 2.53 แสนล้านบาท
ปี 2564 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เข้าเทรด ราคาไอพีโอ 18 บาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 208,980 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 26.50 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 47.22%
โดย OR ได้ซุปตาร์ นักลงทุน VI อย่าง “เซียนฮง” สถาพร งามเรืองพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน “เซียนฮง” ไม่ได้ติดทำเนียบผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ประการใด
และในปี 2565 บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (TLIX เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก โดยเปิดการซื้อขายในเช้าวันนี้ที่ราคา 16 บาทต่อหุ้นเท่ากับราคาไอพีโอ มาร์เก็ตแคป าร์เก็ตแคป 1.83 แสนล้านบาท
หากพิจารณาจากข้อมูลจะพบว่า หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่สุด ที่เข้าระดมทุน 5 ปีย้อนหลังจะพบว่า มีเพียง OR เท่านั้นที่ผลตอบแทนเป็นบวก ส่วนที่ติดลบเห็นจะเป็น SCGD ที่เปิดตลาดร่วงลงทุนที 12%
ส่วนที่เหลืออีก 3 บริษัทราคาไม่เปลี่ยนแปลง!
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความเคลื่อนไหวราคาย้อนหลัง 5 ปี นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 พบว่าแทบจะทุกตัวราคายังต่ำกว่าไอพีโอ มีเพียง OR หนึ่งเดียวเท่านั้น ที่ราคายังยืนเหนือราคาจองกว่า 11%
| หุ้น | ราคาไอพีโอ (บาท/หุ้น) | ราคาปิด 20/12/66 (บาท/หุ้น) | เพิ่มขึ้น/ลดลง% |
| AWC | 6 | 3.56 | -40.66 |
| CRC | 42 | 40 | -4.76 |
| OR | 18 | 20 | +11.11 |
| TLI | 16 | 9.70 | -39.37 |
| SCGD | 11.50 | 9.80 | -14.78 |
บทเรียนนักลงทุนหุ้นไอพีโอ...คงต้องพิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน ทำการบ้านให้มากขึ้น ใช่เพียงมองแค่ผู้นำตลาด หรือมีเครือข่ายครบวงจร ต้องมองถึง P/E ประกอบด้วย ยกตัวอย่าง AWC ราคาขายไอพีโอที่ 6 บาทคิดเป็น P/E สูงถึง 277.6 เท่า ทำไมเราถึงกล้าซื้อ แถมหุ้นหลายๆตัวยังมี Greenshoe Option แต่สุดท้าย ยังราคาต่ำกว่าจองอยู่ดี
ช่วงปลายปี 2566 ถือเป็นโอกาสที่ดี ในการกลับไปคิดตรึกตรอง สำรวจพอร์ตลงทุน และหาหุ้นดีๆเข้าพอร์ต รับปีมังกร...ขอให้ทุกคนโชคดี
ที่เกี่ยวข้อง
