บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เผยบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า ภาพด้ชนี SET Index กรอบเวลารายปี (12 เดือน) เริ่มส่งสัญญาณเชิงลบและเข้าสู่โซนอันตรายจากการหลุดเส้น EMA12 โดยจากภาพที่ 1 เราใช้เส้นค่าเฉลี่ย EMA12 เพื่อดูค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 12 ปี พบว่า SET Index มักจะยืนเหนือเส้น EMA12 ได้ตลอด
โดยรอบล่าสุดที่ SET Index กลับมายืน EMA12 ได้ตั้งแต่ปี 2552 ทำให้ด้ชนีเข้าสู่รอบแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหญ่เป็นเวลากว่า 14 ปี จากบริเวณ 735 จุด ไปทำจุดสูงสุดที่ 1850 จุด ในปี 2018
ก่อนที่จะเกิด False Breakout และค่อยๆ เสียทรงทางขาขึ้นทีละน้อย นับตั้งแต่มีตลาดหุ้นไทย ครั้งที่ 1 เกิดในปี 1997 ซึ่งเกิดวิกฤตการณ์การเงินเอเชียหรือต้มยำกุ้ง ครั้งที่ 2 เกิดในปี2008 ที่เกิดวิกฤตศรษฐกิจสหรัฐหรือซัปไพรม์ และครั้งที่ 3 เกิดในปี 2020 จากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 (แต่ปิดสิ้นปีกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้น EMA12 ได้อีกครั้ง)
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า หาก SET Index ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 12 ปี เมื่อไร มักจะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตามมา
ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2566 พบว่าด้ชนี SET Index ได้ปิดต่ำกว่าเส้น EMA12 อีกครั้ง ด้วยผลตอบแทน -18% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) และจากอินดิเคเตอร์ MACD จะเห็นว่าโมเมนตัมแดนบวกจาก MACD-Histogram อ่อนแรงลง และเส้น MACD จอตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal จึงเป็นสัญญาณอันตรายเตือนว่า SET Index มีโอกาสพักฐานครั้งใหญ่
หากสิ้นปีนี้ซึ่งเหลือเวลาทำการประมาณ 16 วัน ดัชนี SET Index ไม่สามารถดึงกลับขึ้นไปปิดเหนือเส้น EMA12 ที่บริเวณ 1430 จุดได้จึงสามารถตีความได้สองกรณีดังนี้ 1) หากเกิด Santa Rally ที่ส่วนหนึ่งจะได้รับผลมาจากมาตรการ ThaiESG Fund พร้อมด้วย Valuation หุ้นไทยที่ราคาถูกลง มีเม็ดเงินใหญ่เข้าซื้อหุ้นในช่วงสุดท้ายของปี ด้นกลับไปปิดเหนือ 1430 จุด รอดพ้นการตกต่ำกว่าเส้น EMA12 หรือ 2) ปิดสิ้นปียืน 1430 จุดไม่ได้ SET Index พักฐานแรงในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ก่อนที่จะเริ่มฟื้นช่วงปลายไตรมาสที่ 2 จากการที่ Fed อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Fund Rate) ลงเป็นครั้งแรก
ดังนั้น SET Index จึงเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่อาจจะเป็น จุดเลือกทางของดัชนีในรอบหลายปี ทางฝ่ายจึงแนะนำลงทุนด้วยความระมัดระวัง และหากปีนี้ไม่สามารถปิดเหนือEMA12 ได้ แม้ Valuation ของราคาหุ้นจำนวนมากจะต่ำแล้ว แต่ยังไม่ใช่จังหวะในการเข้าสะสมหุ้นในเวลานี้
ที่เกี่ยวข้อง
