ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ขึ้นเครื่องหมาย C บนหลักทรัพย์ของบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) เนื่องจากงบการเงินสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเมื่อเทียบกับทุนชำระแล้วที่หักด้วยส่วนต่ำมูลค่าหุ้น (ถ้ามี) ต่ำกว่าร้อยละ 50 นั้น บริษัทฯ ขอเรียนว่าบริษัทฯได้ดำเนินการจัด ประชุม Public Presentation ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.00 น.
แนวทางการแก้ไขปัญหาของ บริษัทฯ
1) บริษัทฯ ได้ขายทรัพย์สิน 3 รายการ คือ 1.1 หุ้นสามัญ บริษัท โดมิโน่ เอเซีย แปซิฟิค จำกัด (DMN) ร้อยละ 91.18 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (ภายหลังจาก DMN เพิ่มทุน 580 ล้านบาท) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 248 ล้านบาท 1.2 หุ้นสามัญ บริษัท ดีเค วาว เวนเจอร์ จำกัด (DKW) ที่บริษัทถืออยู่ ทั้งหมด ร้อยละ 69.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดและภาระหนี้สินคงค้างระหว่างกัน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20.5 ล้านบาท 1.3 ทรัพย์สินในหน่วยธุรกิจขนมหวานประเภทมาการอง ภายใต้แบรนด์ La Lune รวมถึงเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของบริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัทฯ) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านขนมนำเข้าจาก ญี่ปุ่น จำนวนเงินทั้งสิ้น 6.5 ล้านบาท (ปรากฎตามสารสนเทศของบริษัทฯ เลขที่ W-AD001/2566 เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566)
2) ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ที่จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 445,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,139,498,713 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,584,498,713 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 445,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.74 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 774,300,000 บาท นั้น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 บริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากผู้ลงทุนบางราย จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอ ขายให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 15,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.74 บาทต่อหุ้น โดยบริษัท ได้รับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินสดเรียบร้อยแล้ว รวม 26,100,000 บาท (ปรากฎตามสารสนเทศแบบรายงานผลการขายของ หุ้นสามัญ ที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจ ากัด (F53-5) เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566)
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 บริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน จากผู้ลงทุนบางราย จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 156,200,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้รับชำระค่า หุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินสดเรียบร้อยแล้ว รวม 156,200,000 บาท (ปรากฎตามสารสนเทศแบบรายงานผลการขายของ หุ้นสามัญ ที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (F53-5) เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566)
3) ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2566 ที่จัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัทฯ จำนวน ไม่เกิน 197,022,678 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนจำนวน หุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 5 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการกำหนดวันกำหนด รายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญ เพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 และกำหนด วันจองซื้อและวันชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ตามแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ เงินทุน ในระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และ 18 ถึง 21 ธันวาคม 2566 ในระหว่างเวลา 9.00 น. – 16.00 น. หากมีความคืบหน้าอย่างไร บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รับทราบ ต่อไป
4) บริษัทฯ มีการเปิดร้าน Kagonoya สาขาใหม่ จำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต (Central Westgate) เปิดขายแล้วในเดือน สิงหาคม 2566 และสาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (The MallNgamwongwan) เปิดขายแล้วในเดือนตุลาคม 2566 ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขา ได้แก่ สาขา สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตกแต่ง และปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งมีแผนที่จะเปิดขายประมาณต้นเดือนธันวาคม 2566 นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปิดปรับปรุง (renovate) ร้าน Kagonoya สาขาเมกะบางนา ซึ่งถือเป็นสาขาที่มีศักยภาพเป็นอันดับหนึ่งในการ สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านชาบู เมื่อเดือนตุลาคม 2566 และจะเปิด ขายภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
ในเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเพิ่มไลน์ธุรกิจอาหาร แบบใหม่ เป็นประเภทอิซากะยะ (“Izakaya”) เพื่อเติมเต็มสไตล์ความเป็นญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการทำร้านชาบู Izakaya เป็นประเภทของบาร์ ญี่ปุ่นอย่างง่ายที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารว่าง Izakaya เป็นสถานที่เรียบง่ายสำหรับการดื่มหลังเลิกงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการนำเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมของร้านชาบู ประเภทของทอด อาทิเช่น ซูชิ แซลมอนและปูอัดซาซิมิ คูชิอะเกะ เท็มปุระรวม ฯลฯ มาปรับขายในเมนูของ Izakaya ซึ่งปัจจุบันได้เปิด ให้บริการแล้วที่ Kagonoya สาขาราชครู ซึ่งได้รับการตอบรับเป็น อย่างดีจากลูกค้าเสมอมา และในอนาคตบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดร้าน Izakaya เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกสถานที่ที่เหมาะสม
แนวทางการแก้ไขปัญหาของ บริษัทฯ
1) บริษัทฯ ได้ขายทรัพย์สิน 3 รายการ คือ 1.1 หุ้นสามัญ บริษัท โดมิโน่ เอเซีย แปซิฟิค จำกัด (DMN) ร้อยละ 91.18 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (ภายหลังจาก DMN เพิ่มทุน 580 ล้านบาท) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 248 ล้านบาท 1.2 หุ้นสามัญ บริษัท ดีเค วาว เวนเจอร์ จำกัด (DKW) ที่บริษัทถืออยู่ ทั้งหมด ร้อยละ 69.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดและภาระหนี้สินคงค้างระหว่างกัน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20.5 ล้านบาท 1.3 ทรัพย์สินในหน่วยธุรกิจขนมหวานประเภทมาการอง ภายใต้แบรนด์ La Lune รวมถึงเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของบริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัทฯ) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านขนมนำเข้าจาก ญี่ปุ่น จำนวนเงินทั้งสิ้น 6.5 ล้านบาท (ปรากฎตามสารสนเทศของบริษัทฯ เลขที่ W-AD001/2566 เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566)
2) ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ที่จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 445,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,139,498,713 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,584,498,713 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 445,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.74 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 774,300,000 บาท นั้น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 บริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากผู้ลงทุนบางราย จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอ ขายให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 15,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.74 บาทต่อหุ้น โดยบริษัท ได้รับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินสดเรียบร้อยแล้ว รวม 26,100,000 บาท (ปรากฎตามสารสนเทศแบบรายงานผลการขายของ หุ้นสามัญ ที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจ ากัด (F53-5) เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566)
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 บริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน จากผู้ลงทุนบางราย จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 156,200,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้รับชำระค่า หุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินสดเรียบร้อยแล้ว รวม 156,200,000 บาท (ปรากฎตามสารสนเทศแบบรายงานผลการขายของ หุ้นสามัญ ที่เสนอขาย ให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (F53-5) เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566)
3) ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2566 ที่จัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัทฯ จำนวน ไม่เกิน 197,022,678 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนจำนวน หุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 5 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการกำหนดวันกำหนด รายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญ เพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 และกำหนด วันจองซื้อและวันชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ตามแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ เงินทุน ในระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และ 18 ถึง 21 ธันวาคม 2566 ในระหว่างเวลา 9.00 น. – 16.00 น. หากมีความคืบหน้าอย่างไร บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รับทราบ ต่อไป
4) บริษัทฯ มีการเปิดร้าน Kagonoya สาขาใหม่ จำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต (Central Westgate) เปิดขายแล้วในเดือน สิงหาคม 2566 และสาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (The MallNgamwongwan) เปิดขายแล้วในเดือนตุลาคม 2566 ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขา ได้แก่ สาขา สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตกแต่ง และปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งมีแผนที่จะเปิดขายประมาณต้นเดือนธันวาคม 2566 นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปิดปรับปรุง (renovate) ร้าน Kagonoya สาขาเมกะบางนา ซึ่งถือเป็นสาขาที่มีศักยภาพเป็นอันดับหนึ่งในการ สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านชาบู เมื่อเดือนตุลาคม 2566 และจะเปิด ขายภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
ในเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเพิ่มไลน์ธุรกิจอาหาร แบบใหม่ เป็นประเภทอิซากะยะ (“Izakaya”) เพื่อเติมเต็มสไตล์ความเป็นญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการทำร้านชาบู Izakaya เป็นประเภทของบาร์ ญี่ปุ่นอย่างง่ายที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารว่าง Izakaya เป็นสถานที่เรียบง่ายสำหรับการดื่มหลังเลิกงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการนำเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมของร้านชาบู ประเภทของทอด อาทิเช่น ซูชิ แซลมอนและปูอัดซาซิมิ คูชิอะเกะ เท็มปุระรวม ฯลฯ มาปรับขายในเมนูของ Izakaya ซึ่งปัจจุบันได้เปิด ให้บริการแล้วที่ Kagonoya สาขาราชครู ซึ่งได้รับการตอบรับเป็น อย่างดีจากลูกค้าเสมอมา และในอนาคตบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดร้าน Izakaya เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกสถานที่ที่เหมาะสม
ที่เกี่ยวข้อง
