Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 02-11-23


02 พฤศจิกายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 02-11-23

02-11-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***เฮ้อ!! หุ้นไอพีโอป้ายแดงทั้งหลายเข้ามาเทรดในตลาดช่วงนี้ บรรดานักลงทุนที่ได้จองซื้อไปเจ๊ว่าต้องทำใจอ่ะนะ..สภาพตลาดหุ้นโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศมันไม่ดีจริงๆ เมื่อวาน 2 ตัวเทรดพร้อมกัน ETL กับ SCL ก้อไม่รอด!!! เป็นกำลังใจให้ทุกคน-ทุกฝ่ายนะคะ สู้ๆๆๆๆ 

***เป็นห่วงก้อแต่ SAFE ที่จะเข้าซื้อขายวันนี้แหล่ะ ขายหุ้น IPO) รวม 76,748,600 หุ้น ราคาหุ้นละ 21.00 บาท มีบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.บัวหลวง  เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ ประเด็นที่เป็นห่วงคือหุ้นไอพีโอนั้นน่ะเป็นหุ้นเพิ่มทุนใหม่เพียง 23,947,800 หุ้น ที่เหลือคือหุ้นสามัญเดิมของ Piccadilly Peak Limited จำนวน 52,800,800 หุ้น ตอนนี้คือหน้าที่ของบรรดานักลงทุนที่จองซื้อไป..ตัดสินใจอย่างไร!!!

***แต่ยังมีประเด็นที่พอจะชื่นใจได้มั่งคือหุ้นไอพีโอของ SAFE จำนวนนี้จัดสรรขายนักลงทุนสถาบัน 40 ล้านหุ้น บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 23.16 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย 11.50 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 2.09 ล้านหุ้น 

*** SAFE หรือ บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป คือหนึ่งในผู้นำการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากครบวงจรด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ มาตรฐานระดับสากล "นายแพทย์วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์" บอกว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจและการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านรักษาผู้มีบุตรยาก การวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์ และ Wellness ในภูมิภาคเอเชีย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ และขยายสาขาและให้บริการด้านห้องปฏิบัติการเพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัท 

***เรื่องราวเกี่ยวเนื่องจากมติ ครม. ที่เพิ่ม "น้ำตาลทราย" เป็นสินค้าควบคุมตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  กูรูหุ้นมองว่าช่วยผ่อนคลายกระแสข่าวการปรับเพิ่มราคาน้ำตาลในช่วงก่อนหน้าต่อกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นต้นทุน (2-10%) เรียงจากน้อยไปมาก คือ SNNP, OSP, ICHI, SAPPE, XO, CBG เน้น ICHI, CBG ที่มีต้นทุนน้ำตาลสูง

***พูดถึง SNNP เมื่อวานปล่อย “เจเล่” หมัดเด็ดโค้งสุดท้ายของปี ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “Jele Chewy Jelly Ice” (เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ ไอซ์) เป็นครั้งแรกของการพัฒนานวัตกรรมจนกลายเป็นสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค New Gen ให้เข้าถึงกับความอร่อยสไตล์ใหม่ ง่ายๆ ไม่ซ้ำใคร 

***โดย Jele Chewy Jelly Ice (เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ ไอซ์) มีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ สามารถ “แช่เย็น” เป็น “เยลลี่” หรือ “แช่แข็ง” เป็น “ไอศกรีม” กับ 2 รสชาติ 2 ความอร่อย “ ลิ้นจี่” และ “มิกซ์เบอร์รี่” อร่อยง่าย ๆ ไม่ซ้ำใคร อร่อยสดชื่นสุดขั้ว โดยมั่นใจว่า Jele Chewy Jelly Ice จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเจเล่ที่ครองใจผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน และพบกับความอร่อยได้แล้ววันนี้ ในราคาซองละ 25 บาท วางจำหน่ายแบบ exclusive เฉพาะที่ 7-11 เท่านั้น

***ทางด้านผู้บริหารคนเก่ง "วิโรจน์ วชิรเดชกุล" บอกว่า SNNP ประสบความสำเร็จในการทำตลาดเยลลี่แบรนด์ “Jele Chewy” (เจเล่ ชิววี่) มาถึง 12 รสชาติแล้ว พบว่าตลาดนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่และมั่นใจว่า Jele Chewy Jelly Ice จะช่วยสร้างความคึกคักในตลาดเยลลี่เป็นอย่างมาก และตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค New Gen ที่จะครองใจผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน  ส่วนเรื่องแนวโน้มผลงานช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วง High season ของตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว คาดว่าผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะทำ New High ได้อีกครั้งหนึ่ง ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2566 แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

***อีกเรื่องที่ ครม.มีมติคือเห็นชอบ วีซ่าฟรี "อินเดีย-ไต้หวัน" เริ่ม 10 พ.ย.66-10 พ.ค.67 รวมเป็นเวลานาน 6 เดือน ส่งผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว หุ้นเด่นๆ ที่จะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้คือ AOT ในฐานะหุ้นรับ ประโยชน์สูงจากรายได้ภาษีเดินทางต่างประเทศ และ ERW ในฐานะที่มีสัดส่วนโรงแรมในไทยสูงสุด 

***เอาแล้ว!!!! GUNKUL จัดหนัก!ชุดใหญ่ไฟกระพริบ!!! บอร์ดประกาศอัดวงเงินไม่เกิน 1,120   ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนสูงสุดจำนวนไม่เกิน 380 ล้านหุ้น กําหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.66 ถึงวันที่ 15 พ.ค.67 

*** “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ” บิ๊กบอสสวย+เก่ง+วิชั่นไกลของ GUNKUL ชัดเจน! เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมถึงทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจบริษัทสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งและยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ส่วนแหล่งเงินทุนจะใช้จากสภาพคล่องส่วนเกิน ซึ่งจะไม่กระทบกับฐานะทางการเงินแต่อย่างใด..เข้าใจตรงกันนะ!!!

***ส่วนทิศทางครึ่งหลังปีนี้ บิ๊กบอสคนสวยบอกว่ากลุ่ม GUNKUL มั่นใจว่ายังคงเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก  โดยทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาสม่ำเสมอ  และทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตจากโครงการใหม่ๆ และจากงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่ปัจจุบันมี Backlog ประมาณ 5,000 ล้านบาท และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่เพิ่ม  จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ปี 2566 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%