Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 27-10-23


27 ตุลาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 27-10-23

27-10-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***อาการน่าเป็นห่วง SET INDEX หลุด 1400 จุดไปแล้ววววว เมื่อวานลงไปยืนปิดวันนี้ที่ 1,371.22 จุด ลดลง 30.48 จุด (-2.17%) มูลค่าซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท มีรายงานว่าเป็นผลพวงเกี่ยวเนื่องจากแรงกดดันทั้งนอกประเทศและในประเทศ โดยกังวลดอกเบี้ยสหรัฐยืนในระดับสูงยาวนาน หลังยอดขายบ้านใหม่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดมาก ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันสถานการณ์ในตะวันออกกลางก็กลับมาตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

***ส่วนปัจจัยภายในประเทศ เกี่ยวเนื่องจากการที่รัฐบาลได้มีการประกาศเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมา 3 แนวทาง โดยจำกัดสิทธิคนรวย แต่ยังต้องรอความชัดเจนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Spending ประกอบกับเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ยังไหลออกต่อเนื่องและค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า

***ส่วนแนวโน้ม SET INDEX ในวันนี้คาดว่าตลาดฯ จะรีบาวด์ทางเทคนิค ทั้งนี้ให้แนวรับแรกไว้ที่ 1,360 จุด และแนวรับถัดไป 1,350 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,385 จุด

***ทางด้านผู้จัดการตลาดหุ้น "ภากร ปีตธวัชชัย" ก้อไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อวานเปิดแถลงข่าวด่วน..บอกว่าตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่าตลาดหุ้นหลายประเทศ แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป และภูมิภาค ขณะที่ไม่ได้พบความผิดปกติในการซื้อขายวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นช็อตเซล หรือ Prop Trade  ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากปัจจัยลบในต่างประเทศคลี่คลาย โดยเฉพาะสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางคลี่คลายลง ก็จะมีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะพลิกกลับมาได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานของประเทศไม่ได้มีปัญหา จึงขอร้องให้นักลงทุนพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ให้รอบคอบ

***ผู้จัดการ ตลท.บอกว่าตลาดหุ้นไทยยังมีจุดเด่นจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่ได้เป็นกังวล เนื่องจากหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับต่ำ ความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์ที่ยังปล่อยกู้ได้อีกมาก และมีจุดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวและส่งออก หากกลับมาได้เร็วจะเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยโตก้าวกระโดด  ส่วนเรื่องเงินทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ที่ไหลออกไปตั้งแต่ต้นปีจนถึงเมื่อวานนี้ 1.7 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนระยะสั้น

***ส่วน MCA ที่เข้าเทรดเมื่อวานเป็นวันแรก..ไม่สวย!!! ปิดตลาดที่ 2.04 บาท ลดลง 1.26 บาท หรือ -38.18% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,006.075 ล้านบาท

***ทางด้าน"ภักดี เหล่างาม"ซีอีโอของ MCA ฝากบอกมาว่า..ขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น MCA ที่เข้าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ดัชนีตลาดหุ้นผันผวน จนส่งผลให้ราคาหุ้นเปิดต่ำจอง แต่บริษัทฯ ก็ยังคงเชื่อมั่นศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมทั้งยืนยันว่าทางกลุ่มบริษัท ภักดี 2019 โฮลดิ้ง จำกัด และกลุ่มผู้บริหาร ยังคงถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 68.91% และไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน 

***ส่วนน้องใหม่ไอพีโอรายล่าสุดที่เข้ามายืนในลิสคือ NAM หรือ บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น เตรียมนำหุ้นเข้าเทรดใน SET วันที่ 31 ต.ค.นี้ เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจอย่างยิ่ง ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในการเป็นผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร ทำให้มีความได้เปรียบและพร้อมต่อยอดสู่ความสำเร็จเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยให้มีศักยภาพการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระดับโลก

***ทางด้าน บล.ฟินันซ่า ในฐานะหลีดอันเดอร์ไรท์ บอกว่า NAM  เปิดขายหุ้น IPO จำนวน 181 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 7.70 บาท ระหว่างวันที่ 19-20 และ 24 ต.ค.66 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก เพราะนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีศักยภาพการเติบโตสูง ประกอบกับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุ นโยบายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม การพัฒนาของเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงแนวโน้มการเพิ่มค่าใช้จ่ายและงบประมาณด้านสุขภาพของภาครัฐฯ  เนื่องจากอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์เป็นสินค้าจำเป็นที่มีความสำคัญต่อสุขภาพ อีกทั้ง ด้วยความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อ และให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งช่วยผลักดันที่ทำให้กระแสความสนใจหุ้นของ NAM ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

คุณวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า NAM ถือเป็นผู้นำในธุรกิจผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งให้บริการแบบครบวงจร นับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นบริษัทฯ ที่ช่วยสนับสนุนการแพทย์และระบบสาธารณสุข เพราะผลิตภัณฑ์และบริการของ NAM อยู่ในกระบวนการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในระดับปราศจากเชื้อ (Sterilization) ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การมีบริษัทในกลุ่มปตท. เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จะช่วยเสริมศักยภาพด้านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จึงมั่นใจว่า NAM จะเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งและพร้อมสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว

คุณกำพล ทรวงบูรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า NAM มีฐานลูกค้าสำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง ซึ่งครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 50 ปี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังส่งเสริมการวิจัยพัฒนา ผลิต จัดหาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากล อาทิ ASME, ISO13485, ISO9001, ISO14001, CE Mark และ PED รวมถึงแผนการเตรียมขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ และสปป.ลาว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตไปพร้อมกับพัฒนาการด้านสาธารณสุข ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก