Smart Investment

สปส.เป๋าตุง! รับเงินสดกว่า 558 ลบ. 7 หุ้นบิ๊กแคปแจกปันผลครึ่งปี 66


30 สิงหาคม 2566

by.พูเมซ่า 

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม 2566 ดัชนีเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และอยู่ระหว่างการรอดูความชัดเจนของคณะรัฐมนตรีว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร

smart invest สปส.รินขาย 5 หุ้นบิ๊กแคป TU แชมป์ถูกเทขา.jpg

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินว่า SET Index สลับกลุ่มขึ้นโดยมีเป้าหมาย sideway up ที่ 1,580-1,600 จุด พลังงานและท่องเที่ยวที่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังปรับขึ้นได้ดีในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้เรามองหุ้นจะเริ่มเกิดการหมุนกลุ่ม (Rotation) ซึ่งหุ้นที่มี seasonality ของผลประกอบการที่ดีในครึ่งปีหลังและได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่น่าจะมีโอกาสผ่านจุดสูงสุด ประกอบกับปัจจัยในประเทศทั้งการให้วีซ่าระยะยาวกับต่างชาติ และโอกาสได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรามองกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีโอกาสเริ่มเคลื่อนไหวได้ดี โดยเราชอบ AP, SPALI, CPN, ORI

ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย ในส่วนพอร์ตลงทุนหุ้นของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) พบว่าในเดือนสิงหาคม 2566 หุ้นในพอร์ตที่สปส.ถือลงทุนมีการขึ้นเครื่องหมาย XD หรือสิทธิที่ไม่ได้รับเงินปันผลงวดครึ่งแรกของปี 2566 หลังขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว พบว่า มีหุ้นขนาดใหญ่ 7 หุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ประกอบด้วย

 

หุ้น

จำนวนถือ(หุ้น)

อัตราเงินปันผลต่อหุ้น

มูลค่าเงินปันผล(บาท)

ADVANC

49,924,500

4

       199,698,000

PTTEP

25,135,877

4.25

       106,827,477

SCC

52,063,050

2.5

       130,157,625

SCGP

50,064,586

0.25

        12,516,147

TU

123,727,608

0.3

        37,118,282

BTS

418,160,400

0.16

        66,905,664

LPN

66,616,600

0.08

          5,329,328

 

 

 

 

รวม

 

 

   558,552,523

 

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า หุ้นADVANC เป็นหุ้นที่ให้เงินปันผลมากที่สุด และหากนับรวมกันทั้ง 7 หุ้นที่จ่ายปันผลสปส.จะได้รับเงินรวมกว่า 558 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในพอร์ตการลงทุนของสปส.ยังมีหุ้นและกองทุนที่จะจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกจำนวนมาก ดังนั้นในแต่ละปี สปส.จะได้รับเงินสดจากการจ่ายเงินปันผลสูงไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนี้หากพิจารณาพอร์ตลงทุนของสปส.ในส่วนการถือครองหุ้น โดยนำรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2566 ไปเปรีบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน ยังพบว่า สปส.ได้ทยอยรินขายหุ้นบิ๊กแคปออกมาทำให้สัดส่วนการถือครองลดลง โดยหุ้นที่สปส.ขายออกมามีจำนวน 5 หุ้นใหญ่ ประกอบด้วย 

 

หุ้น

จำนวนหุ้นล่าสุด

จำนวนหุ้นก่อนหน้า

เปลี่ยนแปลง

ADVANC

49,924,500

58,371,360

-8,446,860

PTTEP

25,135,877

31,264,085

-6,128,208

SCC

52,063,050

54,838,210

-2,775,160

SCGP

50,064,586

55,526,770

-5,462,184

TU

123,727,608

137,780,008

-14,052,400


หน่วย:หุ้น

จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่า หุ้นTU เป็นหุ้นที่ถูกเทขายมากสุด จำนวน 14,052,400 หุ้น รองลงมาเป็นหุ้น ADVANC จำนวน 8,446,860 หุ้น

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นTU ล่าสุด  ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ประกอบด้วย

รายชื่อ

จำนวน(หุ้น)

%การถือครอง

บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด

329,563,331

6.91

นาย ธีรพงศ์ จันศิริ

319,568,824

6.7

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

316,682,800

6.64

MITSUBISHI UFJ MORGAN STANLEY SECURITIES CO.,LTD.

238,745,120

5

นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล

228,000,000

4.78

นาย เชง นิรุตตินานนท์

200,442,084

4.2

BNP PARIBAS SINGAPORE BRANCH

172,367,700

3.61

นาย ไกรสร จันศิริ

134,804,288

2.83

สำนักงานประกันสังคม

123,727,608

2.59

นาย ดิสพล จันศิริ

123,349,308

2.58

 

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวราคาหุ้นTU ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.70% จากราคา13.50 บาทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14 บาท โดยเคยปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 14.20 บาท   

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นTU ฝ่ายวิจัยได้แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 15.90 บาท เนื่องจากการที่บริษัทรายงานตลาดลดทุนจากหุ้นซื้อคืนจำนวน 116.68 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.45% ส่งผลให้ คาดการณ์ EPS66-67 ของเราปรับขึ้นเป็น 0.95 และ 1.31 บาท จาก 0.93 และ 1.28 บาทตามลำดับ ส่วนแนวโน้มกำไรปกติ 3Q66 คาดจะฟื้นตัวต่อ QoQ จากระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าที่ลดลงมากขึ้นหนุนปริมาณขาย ประกอบกับราคาต้นทุนปลาทูน่าที่เริ่มปรับลดลงหนุน GPM

ทั้งนี้ ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะยาวของ TU คาดกำไรจะทยอยฟื้นตัว HoH ใน 2H66 และกลับมาเติบโต YoY ในปี 2567 และผลของการลดทุนทำให้ราคาเป้าหมายของเราถูกปรับขึ้นเป็น 15.90 บาท รวมถึงราคาหุ้นปัจจุบันมองว่ายังอยู่ในโซนต่ำ ซื้อขายบน PERปี67เพียง 10.6 เท่า และมีสถานะ Under-owned จากนักลงทุนต่างชาติทำให้มี Downside risk จำกัด