Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 29-08-23


29 สิงหาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 29-08-23

29-08-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ  

***อย่าลืมน๊าาาาา วันที่ 1 ก.ย.นี้ MSCI จะปรับน้ำหนักหุ้น โดยที่ผ่านมาได้ประกาศรายชื่อชุดหุ้นที่เข้า - ออก 
-ดัชนี MSCI Global Standard Index ล่าสุด หุ้นไทยที่เข้าดัชนีรอบนี้ คือ TTB  หุ้นไทยที่ออกจากดัชนีรอบนี้ คือ CBG, SAWAD 
-ดัชนี  MSCI Small Cap Index หุ้นเข้า คือ CBG, COM7, ITC, PSG, SAWAD หุ้นออก คือ PTL, SINGER, S  
กลยุทธ์ คือ มองเก็งกำไรหุ้นที่เข้าสู่ดัชนี อาทิ TTB ส่วนหุ้นออกให้ หลีกเลี่ยงระยะสั้น 

***อีกรายการคือ FTSE ประกาศชุดหุ้นที่ Rebalance รอบใหม่ จะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิด วันที่ 15 ก.ย. 23 โดย ดัชนีต่างๆ มีหุ้นเข้า - ออก ดังนี้ - FTSE Large Caps หุ้นเข้า คือ TRUE หุ้นออก คือ GPSC, AWC 
- FTSE Mid Caps หุ้นเข้า คือ GPSC, AWC (ทั้ง 2 หุ้นขยับลง จาก Large Caps) หุ้นออก คือ STGT, TRUE (ขยับสู่ Large Caps) 
- FTSE Small Caps หุ้นเข้า คือ STGT ขยับลงจาก Mid Caps) หุ้นออก คือ VIBHA 
- FTSE Micro Caps หุ้นเข้า คือ ACE, AURA, B, DCC, HYDROGEN, LHHOTEL, NEX, OISHI, PJW, PRINC, RBF, RCL, SUN, TRU หุ้นออก คือ 7UP, ACC, AIE, AMR, APCS, BEAUTY, BIOTEC, CFRESH, CSS, EE, FN, INOX, LOXLEY, MTI, PRIME, RML, SAPPE, SDC, SISB, SJWD, SUC, TC, TEAM, W, WP 
กลยุทธ์ คือ เก็งกำไร TRUE เลี่ยงหุ้นที่จะถูกขาย/ลดน้ำหนัก อาทิ GPSC, AWC และ STGT 

***มาแวะการเมืองกันหน่อยเนาะ..ประเมินว่าในสัปดาห์นี้การจัดโผ ครม. น่าจะแล้วเสร็จพร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯ หลังจากนั้นกระบวนการต่างๆ ก็จะดำเนินไป จนถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนเริ่มทำงาน คือการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ซึ่งกำหนดเบื้องต้นไว้เป็น 8 ก.ย.66 นับ จากนี้ไปโหมดการสนทนาประเด็นทางการเมืองจะถูกปรับจาก..ใครจะได้กระทรวงไหน? มาเป็นเรื่องแนวนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะทำ ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้นจะเริ่มเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าไปในหุ้นที่คาดหมายว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลใหม่

***เซียนหุ้นให้ความเห็นว่านโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ได้วางแนวทางและวางกรอบเอาไว้เบื้องต้นแล้ว ประกอบด้วย 1 กระตุ้น 3 เร่งด่วน 3 สร้าง ดังนี้ 
-นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในประเทศ อาทิ นโยบาย Digital Wallet แจกเงิน 10,000 บาท/คน มีการคาดกันว่านโยบายดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนสงกรานต์ปีหน้า  ซึ่งกลุ่มหุ้นที่ สามารถเก็งกำไรได้ คือ กลุ่มหุ้นที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ และเครือข่าย โทรคมนาคม ADVANC, TRUE, COM7, SPVI, CPW และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Digital Asset ทั้งหมด BROOK, JTS, RS, ANAN, SIRI, SC, ORI, ASW, MAJOR, JMART,  KBANK, SCB,  XPG, GULF เป็นต้น 
-นโยบายเร่งด่วน 3 ด้าน คือ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ , เร่งแก้หนี้ประชาชน, เร่งแก้ไขราคา พลังงาน 
-เร่งด่วน 3 สร้าง คือ สร้างรายได้, สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ, สร้าง คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

***ส่วนเทพหุ้นจากอีกค่ายให้ความเห็นหลัง สามารถจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ มีหลายมิติที่มองเห็นคือ
-ตลาดหุ้นปลดล็อคความเสี่ยงด้านการเมืองที่ปกคลุมมากว่า 3 เดือน คาดตลาดหุ้นไทย จะมีช่วง Honeymoon Period ราว 2 เดือน ถึง สิ้น ต.ค.66 คาด SET ขึ้นสู่กรอบ 1625-1665 จุด โดยมีดัชนีเป้าหมานปลายปีนี้ที่ 1710จุด อิง ERP 3.21% 
-ค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่า 33.5บาท+/- ราวสิ้น ต.ค.นี้ จากการกลับสถานะของนักลงทุนต่างชาติที่ลดความเสี่ยงจากการเมืองไทยในช่วงก่อน 
-ความเชื่อมั่นของ การลงทุนเพิ่มขึ้น ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีประสบการณ์เคยบริหารเศรษฐกิจของประเทศมาก่อน จะได้รับการตอบรับจากเอกชนไทย/เทศ  และระยะสั้นนโยบาย การคลังจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ระยะกลาง-ยาว นโยบายการปรับโครงสร้างประเทศ จะช่วยยกระดับศักยภาพ การผลิตไทย 

***ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำคือ ให้เน้นลงทุนหุ้นอิงนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ พรรคเพื่อไทย (CPAXT, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, BE8, SCB, KBANK, WHA, STEC, PTT, AMATA, GULF)  ดังที่ได้หา เสียงไว้ก่อนหน้า คาดจะผลักดันออกวงเงินราว 1.8 ล้านล้านบาท หรือ 16.8% ของ Real GDP ไทยปีที่ผ่านมา  โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ส่วน ได้แก่   
1) เศรษฐกิจฐานรากผสานดิจิทัล (Digital Wallet กระตุ้น บริโภคระยะสั้น, เพิ่มรายได้ครัวเรือน หนุนระยะกลาง-ยาว ผ่าน กลไกเพิ่มทักษะ (Platform สร้างอาชีพ + 1 คนที่มีศักยภาพใน 1 ครอบครัว 1 Soft Power+สนับสนุนการท่องเที่ยว ผสานการจัดโครงสร้างธุรกิจเกษตร (ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ตรงความต้องการโลก เพื่อหนุนราคาสินค้าเกษตร ผสานนำเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน) และเมื่อ GDP เติบโต ได้ตามเป้าหมาย 5+/-% ต่อปี จะทยอยปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ+ เงินเดือน ป.ตรี  หนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกอิงกำลังซื้อต่างจังหวัด (CPAXT, DOHOME, GLOBAL)  ดิจิตอล (ADVANC, BE8) ธนาคาร (SCB, KBANK) 

***2) เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (รถไฟความเร็วสูง รถไฟ เชื่อมระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง, สนามบิน ผสานการเพิ่ม พื้นที่นิคมใหม่และการบริหารทรัพยากรต่างๆ ) อำนวยความ สะดวกลงทุนเพิ่ม เช่น ระบบรัฐบาลดิจิทัล ลดระเบียบขั้นตอน การดำเนินการ และเพิ่มสิทธิประโยชน์ผลักดัน S Curve ธุรกิจ ใหม่ฝั่งดิจิทัลในกลุ่ม Start-up มองบวกต่อหุ้น (WHA, STEC, PTT, AMATA, GULF) 

***3) นโยบายเด่นด้านอื่น อาทิ การยกระดับบัตรทอง  30 บาท รักษาทุกโรค นโยบายพรรคร่วม อาทิ กัญชาเพื่อการแพทย์ และนโยบายเด่น ๆ ในอดีตของพรรคเพื่อไทย อาทิ นโยบายหนุนราคาสินค้าเกษตร นโยบายที่จะหนุนการลงทุนตลาดทุน กองทุนหุ้นระยะยาว และนโยบายการปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงานเพื่อต้นทุนผู้ประกอบการ นำมาสู่ภาระผู้บริโภค ต้นทุนพลังงานลดลง