รายงานพิเศษ : TFG แกร่ง! รายได้ปี 69 แตะ 8 หมื่นลบ. ขยาย “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ครบ 850 สาขา เร่งเปิดร้านค้าปลีกในตลาดเวียดนาม

บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เดินหน้าสร้างสถิติใหม่ ปี 69 ตั้งเป้ารายได้ทะยานแตะ 80,000 ล้านบาท เร่งขยาย “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ครบ 850 สาขาทั่วประเทศ ย้ำบทบาท Flagship พร้อมเดินหน้าลุยตลาดสุกร-ไก่ ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งเวียดนาม, อียู, ญี่ปุ่น, จีน รวมถึงแผนบุกตลาดใหม่ใน เกาหลีใต้, ตะวันออกกลาง และมาเลเซีย
ผลงาน 9 เดือนปี 68 โตสวย
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้าตลอดปี 2568 แต่ TFG สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยงวด 9 เดือนปี 2568 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 68) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ All Time High ที่ 6,292.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,026.72 ล้านบาท หรือ 177.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,266.04 ล้านบาท และมีรายได้รวม 55,101.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,018.78 ล้านบาท คิดเป็น 14.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 48,083.02 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งหากรวมการจ่ายปันผลระหว่างกาลในรอบปีนี้ทั้งหมด เท่ากับ 0.40 บาท/หุ้น (มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจำนวน 3 ครั้ง)
ปี 69 ตั้งเป้ารายได้ 8 หมื่นลบ.นิวไฮ
“เพชร นันทวิสัย” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ TFG ตั้งเป้ารายได้ปี 2569 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน ด้วยความเชื่อมั่นว่าตลาดสุกร และไก่ ยังคงเป็นสินค้าที่มีอนาคต และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังเหตุการณ์โควิด ที่ทำให้เกิดความนิยมซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลธุรกิจของ TFG เช่นเดียวกัน
โดย TFG วางแผนขยายตลาดต่างประเทศที่เป็นตลาดหลักทั้ง เวียดนาม, อียู, ญี่ปุ่น, จีน รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ในประเทศเกาหลีใต้, ตะวันออกกลาง และมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต ร่วมกับการบริหารต้นทุน และบริหารจัดการระบบคลัง ให้มีประสิทธิภาพ
ขยายร้าน “ไทยฟู้ด เฟรซ มาร์เก็ต”
กลยุทธ์การเติบโตของ TFG คือ การขยายร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ซึ่งเป็น Flagship สำคัญในการสร้างรายได้และเพิ่มมาร์จินให้บริษัทฯ โดยมีแผนขยายสาขาให้ครบ 615 สาขาปีนี้ และเพิ่มเป็น 850 สาขาในปี 2569 สนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน TFG เตรียมงบประมาณลงทุนในปีหน้าไว้ที่ 2,500-3,000 ล้านบาท โดย 80% จะใช้ในการขยายสาขา “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ที่เหลือเป็นการขยายการลงทุนในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์
ตลาดเวียดนามแรงผลักดันสำคัญ
TFG มุ่งเป้าไปที่ตลาดเวียดนามซึ่งเป็นตลาดสำคัญในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่าจะเติบโตได้ดีในอนาคต โดยพบว่าหลังจากเปิดตลาดในประเทศนี้มาเป็นระยะเวลาร่วม 15 ปี ปรากฏว่ามีการเติบโตอย่างมาก 20-30 เท่าในช่วง 5 ปีหลัง ปัจจุบันบริษัทฯ ผลิตสุกรเป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม สร้างรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท คาดว่าใน 3-5 ปีข้างหน้ารายได้มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านบาทได้
พร้อมกันนี้ ประเมินว่าหาก TFG ใช้โมเดลธุรกิจในเวียดนามเหมือนกับโมเดลธุรกิจในไทย คือ การเปิดร้านค้าปลีก จึงเป็นไปได้ว่าในอนาคตรายได้จากเวียดนามจะเทียบเท่ากับรายได้ในประเทศไทย แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศเป็นหลัก
โบรกฯ แนะซื้อ TFG เคาะเป้า 7.00 บ.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์แนะนำซื้อหุ้น TFG ให้ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท โดยประเมินว่า ผู้บริหารของ TFG ให้แนวทาง (guidance) ว่ารายได้ปี 2568 น่าจะสูงถึง 75,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน และเติบโต 10-15% ในปี 2569 ปัจจัยหนุนหลักจากยอดขายร้านค้าปลีกเติบโตได้ราว 30% จากปีก่อน โดยที่บริษัทฯ คงเป้าการขยายร้านสาขาปี 2568F อยู่ที่ 615 สาขา เพิ่มขึ้น 53% จากปีก่อน และเพิ่มเป็น 850 สาขา ในปี 2569F ในแง่ยอดขายต่อร้านเดิม (same store sales) ปี 2569 คาดว่าจะเติบโต 10%
ขณะที่ ราคาสุกรทั้งในประเทศไทยและเวียดนามคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัว โดยคาดว่าธุรกิจสุกรจะสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตปี 2569 ขึ้นราว 15% จากปีก่อน ผลจากการขยายกำลังการผลิต ส่วนธุรกิจไก่ปี 2569F คาดว่าปริมาณผลผลิตจะเติบโตราว 5-7% ในปี 2569 หนุนจากอุปสงค์การส่งออกแข็งแกร่งขึ้น และยังจะได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำ
ดังนั้น ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568F/2569F สาเหตุจากที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบในไตรมาส 4/68F และปี 2569 มีแนวโน้มเป็นบวกต่อ TFG จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568F ขึ้น 2% และปี 2569F ขึ้น 15% บนสมมติฐานที่ i) ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ขึ้นที่ 20.7%/18.0% (จาก 20.2%/15.7%) และ ii) ปรับลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลง 9%/3% ตามการบริหารจัดการหนี้สินของ TFG ได้ดีขึ้น ดังนั้น กำไรสุทธิใหม่ปี 2568F จะอยู่ที่ 7,900 ล้านบาท (+130% YoY) และปี 2569F ที่ 6,500 ล้านบาท (-18% YoY)