รายงานพิเศษ : MENA เกาะกระแสรักษ์โลก ขยายตลาดรถขนส่งพลังงานสีเขียว(EV) ยกระดับธรรมาภิบาลร่วมโครงการ Jump+

ผลงานบมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) วางเป้ายกระดับธรรมาภิบาลร่วมโครงการ Jump+
ธุรกิจโลจิสติกส์แนวโน้มสดใส
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยยังมีแนวโน้มที่ดี ส่งผลต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธุรกิจขนส่งในทุกภาคส่วนของ MENA ด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์ และธุรกิจการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค จากปัจจัยสนับสนุนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งช่วยกระตุ้นการก่อสร้างและส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ
SCB EIC คาดภาคก่อสร้างยังเติบโต
สอดคล้องกับการที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ใน ประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 29.4 ล้านตันในปี 2568 เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการก่อสร้าง ภาครัฐและโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของภาคเอกชน(ที่มา : Business-intelligence-CEMENT-INDUSTRY20250108.pdf)
นอกจากนี้ SBC EIC ยังคาดการณ์มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2569 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 1% ถึงแม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ด้านการบริโภคภายในประเทศ คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และการกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของบริษัทฯ จึงยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2568
ฉายภาพ 9 เดือนปี68 ผลงานแข็งแกร่ง
ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 9 เดือนของปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568) มีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 615 ล้านบาท รายได้หลักมาจากธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรายได้ค่าขนส่ง (Trailer) เติบโต 4%
เล็งจับมือพันธมิตร รุกขนส่งด้วย EV
เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีศักยภาพของรายได้และกำไรในอนาคตเติบโตยังคงมองหาโอกาสในการขยายฟลีทเพิ่มเติม ผ่านทางการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดร่วมกันโดยเฉพาะงานขนส่งด้วยรถ EV ควบคู่ไปกับการบริหารฟลีท รถที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังเน้นการรักษามาตรฐานการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและเคียงคู่ลูกค้าเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ร่วมโครงการ Jump+ ยกระดับธรรมาภิบาล
บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เข้าร่วมโครงการ Jump+ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทย เพื่อผลักดันบริษัทจดทะเบียนเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯ ต้องดำเนินการจัดทำแผนธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาลและแผนด้าน Climate Action ที่มีการเติบโตที่ชัดเจนและวัดผลได้ภายใน 3 ปี (2569-2571) และเปิดเผยแผนงานต่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เล็งเห็นประโยชน์อย่างมากที่จะใช้แนวทางของโครงการ JUMP+ มาเป็นกรอบในการวางแผนงาน
เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2569
แผนการดำเนินธุรกิจปี 2569 หลักๆ บริษัทฯ จะพัฒนา Solution การให้บริการลูกค้าแบบเน้นคุณค่า สร้างความแตกต่าง พร้อมปรับตัวให้ทำงานที่หลากหลายเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ร่วมกับลูกค้าทั้งในรูปแบบ same customer growth และ new customer growth รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดด้านปฎิบัติการและการปฎิบัติตามข้อกำหนดในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า
นอกจากนี้ จะพัฒนาระบบในการบริหารจัดการต้นทุนทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้น รวมถึงจะศึกษาและทดลองใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยในการประหยัดต้นทุน เช่น ค่าเชื้อเพลิง ค่ายาง ค่าซ่อม ตลาดจนเวลาในการทำงาน