จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SMD100 เดินเกมรุก ตลาดเทคโนโลยีการแพทย์เชิงลึก หนุนรายได้ปี 68 แตะ 1,200 ลบ.


15 ธันวาคม 2568

เทคโนโลยีการแพทย์เชิงลึก ทั้งเพื่อการรักษาและการป้องกันการเกิดโรค เป็นจุดแข็งที่ได้รับความสนใจจากการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของ บมจ.เอสเอ็มดี ไรส์ (SMD100) ที่เน้นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ มีเทคโนโลยีในการให้บริการด้านสุขภาพกับคนไทย

SMD100_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ปัจจัยที่สนับสนุนการเกิดสถานการณ์สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบของไทย ส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพที่ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านสุขภาพได้แก่ บมจ.เอสเอ็มดี ไรส์ (SMD100) ฐานะตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยนำเข้าจากผู้ผลิตต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่สถานพยาบาลในประเทศและบุคคลทั่วไป

โดยบริษัทได้มีการนำเข้าเครื่องมือด้านการดูแลสุขภาพเข้ามาตอบสนองความต้องการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การเปิดตัว Mevion S250-FIT ระบบฉายแสงรักษามะเร็งด้วยโปรตอนรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย Ultra-Compact Proton Therapy System ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งมิติทางคลินิก งบประมาณ และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในโรงพยาบาลไทย ซึ่ง SMD100 มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีรังสีรักษาระดับโลกมาสนับสนุนการพัฒนาระบบการรักษามะเร็งของประเทศให้ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมทั้งด้านโครงสร้างอาคาร ทีมบุคลากร และต้นทุนการดำเนินงาน

ส่วนการดูแลสุขภาพเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น SMD100 ได้เปิดตัว AntarcticaSun Duo: A Dual-State Temperature-Controlled Bath System นวัตกรรมอ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิคู่ร้อน-เย็นในอ่างเดียวกัน ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรม Wellness, Fitness, Spa, Hotel, Resort และที่พักอาศัยระดับพรีเมียม ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าสู่มาตรฐานใหม่ของสุขภาพเชิงลึกและคุณภาพชีวิตยุคใหม่

AntarcticaSun Duo รองรับการควบคุมอุณหภูมิน้ำตั้งแต่ 3-44 องศาเซลเซียส ด้วยความละเอียดระดับ 0.1 องศาเซลเซียส ทำให้สภาวะร้อน-เย็นเกิดขึ้นได้อย่างเสถียร แม่นยำ และคงที่ตลอดการใช้งาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับธุรกิจสุขภาพและการโรงแรมระดับสูงที่ต้องการผลลัพธ์และมาตรฐานที่สามารถตรวจสอบได้จริง

การเปิดตัวเทคโนโลยีนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ SMD100 ในการขยายบทบาทสู่ตลาด Wellness Hospitality ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ประสบการณ์ และผลลัพธ์ด้านสุขภาพอย่างแท้จริง

สำหรับด้านการป้องกันการเกิดโรค SMD100 ได้เปิดตัว PULSERA Hub - Next Gen Blood Pressure Hub with Real Time Data Integration เทคโนโลยีวัดความดันโลหิตรุ่นใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ทันที รองรับเครื่องวัดความดันโลหิตแบบสอดแขนทุกยี่ห้อ และเชื่อมเข้าระบบหมอพร้อมได้โดยตรง ช่วยให้สถานบริการสุขภาพทุกระดับสามารถส่งต่อข้อมูลสู่แพทย์ได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น

PULSERA Hub ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อข้อมูลความดันโลหิตจากหลากหลายพื้นที่ ตั้งแต่โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา จนถึงศูนย์เวลเนส ฟิตเนส สนามกอล์ฟ และโรงแรม โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งเข้าสู่ Cardiovascular Intelligence Platform ของ SMD100 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลหัวใจที่ออกแบบเพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ให้มีความต่อเนื่อง เข้าถึงง่าย และรองรับการติดตามแบบเชิงรุกในอนาคต

ส่วนผลงานที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จจากการร่วมมือตั้งศูนย์ตรวจการนอนหลับศิริราชกาญจนา ซึ่งเป็นศูนย์ของภาครัฐ  ภายใต้รูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) โดย SMD100 เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการด้านบริการและระบบปฏิบัติงานทั้งหมด

จากการดำเนินงานต่อเนื่อง ทีมงานของบริษัทสามารถสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นจนก้าวขึ้นเป็นศูนย์ที่มี ประสิทธิภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งในระบบ SMD SLEEPVERSE โดย ทีมงานบริษัทที่ปฏิบัติงานในศูนย์ศิริราชกาญจนา สามารถบริหารจัดการบริการตรวจการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราการครองเตียงสูงถึง 95%  ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมด้าน Sleep Medicine และสะท้อนทั้งความเชื่อมั่นจากแพทย์ผู้ส่งตรวจ   ความศรัทธาของผู้รับบริการ  และประสิทธิภาพของระบบที่อยู่ภายใต้โมเดล PPP ระหว่างภาครัฐกับ SMD100

ผลจากปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อรายได้ของ SMD100 อย่างเห็นได้ชัดและมีความต่อเนื่อง โดย ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD100  มั่นใจว่าปี 2568 รายได้บริษัทจะแตะ 1,200 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ตั้งแต่กลางปี และไตรมาส 4 จะเป็น New Revenue Normal หรือฐานรายได้ใหม่ที่องค์กรจะรักษาไว้ได้ทุกไตรมาส

สำหรับปี 2569 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 2,400 ล้านบาท หรือเติบโต 100% สะท้อนศักยภาพของระบบบริหารจัดการใหม่ที่เริ่มทำงานเต็มรูปแบบ ทั้งในมิติการจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ โครงการภาครัฐ และบริการสุขภาพเชิงลึกระดับประเทศ