Talk of The Town

“เศรษฐกิจไทย” รั้งท้ายเพื่อนบ้าน ช่วง 10 ปี โตเฉลี่ยเพียง 1.9 % โบรกฯแนะหอบเงินลงทุนหุ้นตปท.


15 ธันวาคม 2568

โบรกฯ เผยเศรษฐกิจไทยช่วง 10 ปี โตเฉลี่ยเพียง 1.9% โตรั้งท้ายเพื่อนบ้าน เหตุเครื่องยนต์หลักที่คอยผลักดันเริ่มดับลง พร้อมแนะนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในประเทศ ควรหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

“เศรษฐกิจไทย” รั้งท้ายเพื่อนบ้าน_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทย 10 ปีที่ผ่านมา รั้งท้าย ในเอเชีย โดยเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยเพียง 1.9% ต่อปี ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน อาทิเวียดนาม (6.1%), จีน (5.8%), ฟิลิปปินส์ (4.7%), อินโดนีเซีย (4.2%) และ มาเลเซีย (3.9%) เป็นต้น ขณะที่ภาพรวมระยะถัดไปยังบ่งชี้ว่า "เครื่องยนต์เศรษฐกิจหลักกำลังดับลง ตามส่วนประกอบของ GDP (การบริโภค, การลงทุน, การใช้จ่ายรัฐ, และการท่องเที่ยว)

มาตรการกระตุ้นการบริโภค "หมดฤทธิ์" โดยโครงการ "คนละครึ่ง" ในอดีต (เฟส 1-5) เคยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้รวมๆ ประมาณ 1.15% ของ GDP แต่โครงการใหม่ๆ อย่าง "คนละครึ่งพลัสเฟส 1-2" มีขนาดเล็กลงมาก วงเงินรวม 64,000 ล้านบาท คาดกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.15% ต่อปี หรือ 0.6% ต่อไตรมาส อีกทั้งคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ยังไม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง(ในช่วงต้นปี 69) ยิ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งการบริโภคในประเทศ

การท่องเที่ยว "ชะลอตัว" แม้การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวจาก COVID-19 แต่คาดการณ์ปี 2568 (2025) จำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหลือ 34.5 ล้านคน ตัวเลขยังไม่กลับไปจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำได้ เกือบ 40 ล้านคนในปี 2562

การลงทุนภาคเอกชน "หยุดชะงัก" ในช่วง 10 ปีล่าสุด การลงทุนภาครัฐโตดี แต่การลงทุนภาคเอกชน (ซึ่งมีสัดส่วนถึง 73% ของการลงทุนทั้งหมด) กลับโตต่ำมาก เฉลี่ยเพียง 0.9% ต่อปี (เทียบกับอดีตที่เคยโต 4.1%) สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องฟื้นฟูการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

งบประมาณภาครัฐ "ตึงตัว" งบปี 2569 มีข้อจำกัด หากมีการใช้งบไปกับโครงการขนาดใหญ่ (เช่น DIGITAL WALLET) จะทำให้เหลืองบลงทุนปกติที่โตได้จำกัด ลดลง 11.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งสถิติชี้ว่า ในช่วงที่มีการยุบสภาหรือเปลี่ยนผ่านรัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯมักจะสะดุดและชะลอตัวลง

ดังนั้น เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญปัญหา "เก่าโตช้า ใหม่ก็ไม่มา" โดยเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าเพื่อนบ้านชัดเจนมาเป็น10 ปี ขณะที่เครื่องยนต์ในช่วงถัดไปเร่งไม่พอ ตัวช่วยเดิมๆ เริ่มหมดแรง (กระตุ้นการบริโภคได้น้อยลง, ท่องเที่ยวเริ่มแผ่ว) ขาดแรงหนุนจากภาคเอกชนที่ไม่ยอมลงทุนเพิ่ม และภาครัฐก็มีงบจำกัดในการเบิกจ่าย

ดังนั้น จาดข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงสูงและขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ (NEW S-CURVE) ดังนั้น การลงทุนในประเทศอาจต้องเลือกกลุ่มธุรกิจอย่างระมัดระวัง หรือมองหาโอกาสกระจายการลงทุนไปต่างประเทศที่เติบโตสูงกว่า