ดอกเบี้ยขาลง–ดอลลาร์อ่อน หนุนแรงซื้อทองทั่วโลก ปี 69 กระทิงขวิด! เป้าสูง 5,300 ดอลลาร์ ธนาคารกลางเร่งสะสม–ETF เงินไหลเข้าไม่หยุด
Mr.Data
ปี 2569 ถูกจับตาเป็นอีกปีทองของตลาดทองคำ หลังปัจจัยหนุนหลัก ตั้งแต่นโยบายการเงินผ่อนคลายของเฟด เงินดอลลาร์อ่อนค่า ไปจนถึงแรงซื้อทองจากธนาคารกลางและนักลงทุนผ่าน ETF ยังคงแข็งแรงต่อเนื่อง ดันโมเมนตัมราคาทองเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ขณะที่รายงานล่าสุดของ World Gold Council ชี้โอกาสปรับขึ้นแตะ 5–30% ในหลายฉากทัศน์เศรษฐกิจโลก
ตลาดทองคำกลับมาอยู่ในโฟกัสของนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง หลังการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อเนื่องตลอดปี 2568 ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง และกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
3 ปัจจัยหนุนราคาทองปี 69 พุ่ง
นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า ปี 2569 จะเป็นปีที่ทองคำยังได้แรงส่งจากหลายทิศทาง โดย 3 ปัจจัยหนุนหลัก ได้แก่ 1.ดอกเบี้ยเฟดขาลง ดอลลาร์อ่อน หนุนราคาโดยตรง แม้ Dot Plot ชี้ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยปี 2569 ได้อีกเพียง 0.25% แต่ตลาดยังเชื่อว่าทิศทางโดยรวมเป็น “ขาลง” ซึ่งช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือทองคำ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงจากคาดการณ์นโยบายผ่อนคลายจะทำให้ทองน่าสนใจขึ้นในตลาดโลก
2.ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าซื้อทองต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ตุรกี อินเดีย และประเทศตลาดเกิดใหม่ ยังคงเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองเพื่อกระจายความเสี่ยงจากดอลลาร์ จีนเพียงประเทศเดียวซื้อทองต่อเนื่องกว่า 13 เดือน ทำให้ปริมาณความต้องการทองภาครัฐแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ราคาทองมีฐานที่แข็งแกร่งขึ้น
3.เงินไหลเข้า ETF ทองคำต่อเนื่อง 6 เดือนติด กองทุน ETF ที่ถือทองแบบ Physical ทำสถิติเงินไหลเข้ากว่า 5.2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2568 นับเป็นการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นนักลงทุนอย่างชัดเจน โดยปริมาณทองถือครองรวมของ ETF แตะใกล้ระดับ 3,900 ตัน แรงซื้อจาก ETF ถือเป็นตัวสะท้อนกระแสการลงทุนรายย่อยและสถาบัน ที่เพิ่มน้ำหนักทองในพอร์ตเพื่อรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ลุ้นทะยานต่อ 5-30%
รายงาน “Gold Outlook 2026” ของ World Gold Council ประเมินว่า กรณีฐาน (Base Case) ราคาทองมีโอกาสปรับขึ้น 5–15% กรณีบวกมาก (Bullish Scenario) หากเกิดภาวะ “flight to safety” จากความเสี่ยงเศรษฐกิจ–ภูมิรัฐศาสตร์ ทองอาจพุ่งขึ้น 15–30% และกรณีแรงกดดัน (Reflation Return) หากเศรษฐกิจฟื้นแรง–ดอลลาร์แข็ง ทองอาจย่อตัว 5–20%
โดยรวม WGC ชี้ว่าโมเมนตัมราคาทองยังเอนเอียงเชิงบวก จากความต้องการลงทุนที่แข็งแกร่ง และนโยบายการเงินโลกที่กลับสู่โหมดผ่อนคลาย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า หากเฟดเดินหน้าผ่อนคลายตามคาด และความเสี่ยงเศรษฐกิจ–ภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันตลาดโลก ราคาทองในปี 2569 ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องและยืนฐานสูงกว่าปีก่อนหน้า
HSBC ชี้แนวโน้มยังแข็งแกร่ง
รายงานล่าสุดจาก HSBC Private Bank and Wealth ระบุว่า ภาพรวมตลาดทองคำในปี 2569 ยังคงแข็งแรงต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากโครงสร้างอุปสงค์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ทั้งจากธนาคารกลาง, กองทุน ETF, นโยบายการเงิน และปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดช่วยพยุงทิศทาง “ขาขึ้น” ของทองคำในช่วงปี 2567-2569
ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองอย่างแข็งแกร่ง เห็นได้จากสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ (Global Reserves) เพิ่มขึ้นจากประมาณ 13% เป็น 22% ภายในช่วง ปี 2565-2568 ขณะที่ สัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์ของประเทศต่าง ๆ ลดลงต่อเนื่อง
กองทุน ETF เริ่มกลับมาซื้อทองอีกครั้งหลังไหลออกยาวนาน การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ คาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และความไม่แน่นอนทั่วโลก เสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
ราคาเป้าหมายสูงสุด 5,300 ดอลลาร์
ขณะที่สถาบันการเงินชั้นนำคาดการณ์ราคาทองปี 2569 ราคาเป้าหมายสูงสุด 5,300 ดอลลาร์/ออนซ์ โดย Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอยู่ในช่วง 4,900 -5,055 ดอลลาร์/ออนซ์ J.P. Morgan ให้ช่วงราคาเป้าหมายที่กว้างที่สุดคือ 4,000-5,300 ดอลลาร์ Bank of America (BofA) คาดอยู่ที่ 4,000-5,000 ดอลลาร์ Morgan Stanley คาดอยู่ที่ 4,400 ดอลลาร์ TD Securities คาดอยู่ที่ 4,400 ดอลลาร์%20copy.jpg)