หุ้นใหญ่-ผู้บริหาร TRUE ลุยเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเพียบ! ดักปันผลครั้งแรกหลังควบรวม
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) TRUE ล่าสุด ณ วันที่ 18 พ.ย. 2568 และนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อเมื่อเดือนมี.ค.2568 พบว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงผู้บริหาร ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นจำนวนมาก สะท้อนได้ว่าการเพิ่มการถือหุ้นในครั้งนี้ เพื่อที่จะได้รับเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งแรกหลังการควบรวมกิจการกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) DTAC ตั้งแต่ปี 2566

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นประกอบด้วย TELENOR THAILAND INVESTMENTS PTE. LTD. จำนวน 10,469,377,551 หุ้น คิดเป็น 30.3% จากเดิมถือ 9,883,577,237 หุ้น คิดเป็น 28.6 %
บริษัท ซีพีเอช เทลโค จำกัด 3,694,389,485 หุ้น คิดเป็น 10.69% จากเดิมถือ 2,522,788,857 หุ้น คิดเป็น 7.3%, กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง 755,374,126 หุ้น คิดเป็น 2.19%จากเดิมถือ 624,574,126หุ้น คิดเป็น 1.81%
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 747,589,074หุ้น คิดเป็น 2.16%จากเดิมถือ 562,075,357หุ้น คิดเป็น1.63%, STATE STREET EUROPE LIMITED 368,843,916 หุ้น คิดเป็น 1.07% จากเดิมถือ 337,881,852หุ้น คิดเป็น 0.98%
นอกจากนี้ยังพบว่ามี บริษัท ยูนีค เน็ตเวิร์ค จำกัด เข้ามาถือหุ้นเพิ่มจากเดิมไม่มีชื่อปรากฏในโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ครั้งก่อน โดยล่าสุดถือ 455,581,890 หุ้นคิดเป็น 1.32%
สำหรับ TRUE ได้แจ้งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ0.19 บาท โดยจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 3 ธ.ค. 2568 เมื่อนำข้อมูลข้างต้นมาคำนวณพบว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลในครั้งนี้ดังนี้
TELENOR THAILAND INVESTMENTS PTE. LTD. มูลค่า 1,989,181,734.69 บาท, บริษัท ซีพีเอช เทลโค จำกัด 701,934,002.15 บาท, กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง 143,521,083.94 บาท, SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 142,041,924.06 บาท และบริษัท ยูนีค เน็ตเวิร์ค จำกัด 86,560,559.10 บาท
นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังพบว่าเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2568 นาย ซิกเว่ เบรกเก้ ตำแหน่ง กรรมการ (Director and Group Chief Executive Office) รายงานการได้มาหุ้นสามัญบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) โดยทำรายการผ่านตลาดหลักทรัพย์ (Auto Matching) (บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)) จำนวนหลักทรัพย์ที่ซื้อ 550,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 11.30 บาท จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการซื้อ 900,000 หุ้น
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า แนะนำ `ถือ` TRUE มูลค่าที่เหมาะสม 12.20 บาท ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ผลประกอบการหลังไตรมาส 3/2568 โดยมุมมองเป็นกลาง การประชุมมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การแข่งขันเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจมือถือและออนไลน์ แผนการลงทุน และทิศทางการจ่ายเงินปันผล
ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตสำหรับปีงบประมาณ 2568 (การเติบโตของรายได้จากบริการหลักที่ 0-1% และการเติบโตของ EBITDA ที่ 7-8%) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาเครือข่ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคอื่นๆ ผู้บริหารคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ต่ำกว่า
ในระยะสั้นถึงระยะกลาง ผู้บริหารคาดว่าผลกระทบจากปัญหาเครือข่าย ซึ่งยังคงมีอยู่ตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 จะบรรเทาลง TRUE ได้ดำเนินการปรับปรุง "One Network" และปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะยังคงมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมุมมองของลูกค้าในเรื่องนี้ แต่คาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการที่ลดลงจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568
ในด้านกลยุทธ์การแข่งขัน ผู้บริหารไม่ได้ระบุความตั้งใจที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในเชิงรุก แต่จะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพเครือข่าย และการดึงดูดลูกค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ ADVANC
ผู้บริหารยังแจ้งด้วยว่า TRUE จะกลับมาให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่ออัปเกรดและทดแทนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์แบบเดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและปิดช่องว่างของส่วนแบ่งตลาดออนไลน์
สุดท้ายนี้ การหารือยังครอบคลุมถึงทิศทางการจ่ายเงินปันผล ผู้บริหารชี้แจงว่า ตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลรายครึ่งปี เงินปันผลขั้นสุดท้าย (จากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2568) จะถูกนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่ออนุมัติในปีหน้า ผู้บริหารยังคงมุ่งมั่นที่จะกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลให้มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิรวม การจ่ายเงินปันผล 125% ของกำไรสุทธิ (ประมาณ 50% ของกำไรหลัก) ในช่วง 9 เดือนปี 2568 ถือเป็นรางวัลตอบแทนครั้งเดียวสำหรับนักลงทุนนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ