Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 2-12-25 (มาดูกัน! 8 เรื่องที่ต้องติดตามใน ธ.ค.นี้)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 2-12-25 (มาดูกัน! 8 เรื่องที่ต้องติดตามใน ธ.ค.นี้)
2-12-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิมwww.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เดือนสุดท้ายของปีแล้ว..กูรูในวงการหุ้นประเมินว่ามี 8 ปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามในเดือนธันวาคมได้แก่
1) การยุติโครงการลดขนาดงบดุล (QT) ของ Fed ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมซึ่งน่าจะทำให้สภาพคล่องในระบบการเงินทยอยไต่ระดับขึ้น
2) รายงานตัวเลขภาคการผลิตทั่วโลกประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งล่าสุดเริ่มมีทยอยประกาศออกมาแล้วอย่างเช่นประเทศจีนที่ยังคงอยู่ในโซน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันและต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
3) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 9-10 ธันวาคม ซึ่งคาดว่า Fed จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75%
4) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยในวันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งคาดว่ากนง.จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ 0.25% สู่ระดับ 1.25%
5) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งล่าสุดนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปก่อน
6) การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในวันที่ 18-19 ธันวาคม ซึ่งล่าสุดนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปก่อน
7) ความเป็นไปได้ที่ศาลฎีกาสหรัฐฯจะออกคำตัดสิน กรณีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของรัฐบาล ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นไปอย่างชอบธรรมหรือไม่
8) พัฒนาการของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ อาทิเช่น ความเป็นไปได้ของการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ และการจัดการมาตรการเยียวยาเพื่อแก้ปัญหาหลังน้ำท่วม
***มีการประเมินว่าภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนธันวาคม คาดว่าจะอยู่ในโหมดของการฟื้นตัว หลังจากที่หมดข่าวร้ายในระยะสั้นไปแล้ว ทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่อ่อนแอ หรือแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดจากการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI มองตลาดหุ้นจะเริ่มซึมซับข่าวดีเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยุติโครงการ QT ของ Fed, ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยของ Fed และกนง.ซึ่งปัจจุบันยังไม่ถูก Fully priced in, การเข้าสู่ช่วง High season ของการบริโภคและการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพคล่องในประเทศที่จะไหลเข้าสู่กองทุนลดหย่อนภาษีต่างๆในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
***กูรูประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นมากกว่าเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในทางกลับกันปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มองไปยังผลกระทบทางกิจกรรมเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ภายหลังจากจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่ามาตรการเยียวยาจากทางภาครัฐที่ทยอยออกมานั้น จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้บ้าง
***อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองในประเทศคือเรื่องที่ต้องติดตามใกล้ชิด ว่าจะเห็นการยุบสภาเกิดขึ้นในวันที่ 12ธ.ค.นี้หรือไม่ หากฝ่ายค้านมีการยื่นซักฟอกในการเปิดสมัยประชุม โดยอาจทำให้ตลาดเข้าโหมด Wait and See เพื่อรอผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลที่ชัดเจน
***ส่วนประเด็นที่ กพช. เห็นชอบการปรับโครงสร้างก๊าซฯใหม่ เริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.ปีหน้า กำหนดราคาก๊าซฯที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซฯรวมถึงก๊าซฯ LPG ใช้ต้นทุนเดียวกับราคาเฉี่ยก๊าซฯอ่าวไทย ขณะที่ก๊าซฯสำหรับผลิตไฟฟ้า, อุตสาหกรรม และ NGV ใช้ราคา Pool priceซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของก๊าซฯ 3 แหล่ง (อ่าวไทย/ เมียนมา/ LNG) มีการประเมินออกมาว่าจะส่งผลบวกต่อ PTT และจิตวิทยาบวกต่อ PTTGC จากความคาดหวังต้นทุนลดลง แต่ในทางตรงกันข้ามคาดว่าจะส่งผลลบต่อโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนก๊าซจะขยับขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่มีลูกค้าอุตสาหกรรมสูง อาทิ BGRIM, GPSC
***สำหรับตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีการประเมินว่าตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยรอความชัดเจนในประเด็นทางการเมืองของไทย และปัจจัยชี้นำจากภายนอก เช่น แผนระงับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล ประเมินกรอบ SET INDEX สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1242-1270 จุด จุดทดสอบที่สำคัญคือ 1250 และ 1242 จุด